“ชม 789” ดันตลาดคอลลาเจนรอบใหม่ ฟ้องมือดีปล่อยข่าวโจมตีทำยอดขายวูบ

“บริษัท ชม789” ผู้ผลิตและเจ้าของลิขสิทธิ์ CL Collagen เปิดเกมรุกตลาดอีกครั้ง หลังปล่อยคู่แข่งถล่มโจมตี โชว์หลักฐานยืนยันตัวจริงเสียงจริง เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และมีใบอนุญาต อย. ถูกต้อง พร้อมเดินหน้าฟ้องดำเนินคดีฝ่ายปล่อยข่าวโจมตีทำยอดขายหดหายไปกว่า 40%

นายเอกวุฒิ อยู่เจริญ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ชม789 จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2559 หรือเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาประกอบธุรกิจรับจ้างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงามครบวงจร มีการวิจัยพร้อมทั้งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิต ทางบริษัท ชม789 จำกัด ได้ทำการผลิตสินค้าเพื่อดำเนินการจำหน่ายภายใต้ลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาชื่อ CLCollagen ภายใต้เลขสารระบบ (อย.) 1210866050015 และภายใต้รูปแบบ (กล่องสีแดง) ซึ่งทางบริษัท ชม789 จำกัด เป็นผู้มีสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว

“หลังจากเราทำตลาด CL Collagen มาระยะหนึ่งปรากฏว่ามีผลิตภัณฑ์คอลลาเจนที่ใช้ชื่อแบรนด์ใกล้เคียงกันหรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป็นแบรนด์เดียวกันถูกส่งมาเพื่อออกจำหน่ายด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้กล่าวให้ร้ายบริษัทและผลิตภัณฑ์ CL Collagen (กล่องแดง) ของบริษัท ชม789 จำกัด ว่าเป็นสินค้าปลอมและได้ทำการโพสต์ลงในสื่อโซเชียล ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบทางการตลาดของบริษัท และถือว่าเป็นการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงที่ทำให้บริษัท ชม789 จำกัด ให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และได้รับความเสียหาย เรา จึงต้องฟ้องร้องดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ทนายดำเนินการแล้ว”

ด้านนายอนุรักษ์ จันทร์กูล ทนายความ ได้กล่าวว่า บริษัท ชม789 จำกัด ได้ยื่นฟ้องจำเลยในคดีนี้ในข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา” เบื้องต้นตอนนี้มีจำเลยเพียง 1 คน หลังจากนั้นจะยื่นฟ้องในส่วนของความ ผิดที่เกี่ยวกับพรบ.คอมพิวเตอร์ และหากผลการสืบสวนขยายผลพบว่ามีจำเลยร่วมสมทบอีก ทางบริษัทก็จะฟ้องร้องดำเนินคดีเพิ่มเติม รวมทั้งจะฟ้องทางแพ่งและอาญาต่อไป”

นายเอกวุฒิ กล่าวเสริมว่า หลังจากนี้ทางบริษัท ชม789 จำกัด จะทำตลาดผลิตภัณฑ์ CL Collagen (กล่องแดง) อย่างจริงจังอีกครั้ง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับตัวแทนจำหน่ายและผู้บริโภคกลับคืนมา โดยได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์คอลลาเจนและตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามไว้แล้ว

“ที่ผ่านมา CL Collagen กล่องแดงของเรามีกระแสตอบรับจากตลาดที่ดีมาก โดยมีสัดส่วนยอดขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ 50/50 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากผู้ที่ไม่หวังดีปล่อยข่าวทำให้เราได้รับความเสียหาย ยอดขายเราลดลงกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังจากบริษัทฯ สร้างความเชื่อมั่นของลูกค้า และหันมารุกตลาด ทั้งในเรื่องการส่งเสริมการขาย การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เชื่อว่ายอดขายจะกลับคืนมาเร็วๆ นี้อย่างแน่ นอน แต่ในช่วงนี้เราคงต้องจัดการต้นเหตุที่ทำให้เราเสียหายก่อน”