ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT เสิร์ฟงานหัตถศิลป์ร่วมสมัย ตอบโจทย์ โดนใจ ในงาน Crafts Bangkok 2019 ชูแนวคิด “Retell the Details : เล่าเรื่องของเรื่องเล่า”นำเสนอการเล่าเรื่องงานหัตถศิลป์ยุค 4.0 ที่มีการต่อยอดด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวบรวมงานคราฟต์ที่หลากหลายและยิ่งใหญ่ที่สุด พร้อมปั้นผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์รุ่นใหม่ตอบโจทย์ตลาดยุคดิจิทัล พบกัน 4 – 7 เมษายน นี้ ที่ไบเทค บางนา
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ กล่าวว่า ศิลปหัตถกรรมในประเทศไทยมีพัฒนาการต่อเนื่องมายาวนาน จากเดิมเป็นงานเชิงช่างชั้นสูงสำหรับเฉพาะกลุ่ม แต่ปัจจุบัน SACICT ได้มีการพัฒนาองค์ความรู้ภูมิปัญญางานหัตถศิลป์ไปสู่ชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไป ภายใต้กลยุทธ์ “หัตถศิลป์ของชีวิตปัจจุบัน” หรือ “Today Life’s Crafts” ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าความงดงามของศิลปหัตถกรรมไทยประยุกต์ใช้อย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิตในปัจจุบัน สะท้อนให้เห็นมุมมองใหม่ว่างานหัตถศิลป์ไทยได้ปรับตัวไปตามยุคสมัยและกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไป คราฟต์ยุคใหม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คน และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนสภาพเศรษฐกิจ (Craft Economy) ของประเทศ ผ่านการพัฒนาทั้งองค์ความรู้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาตลาด สามารถสร้างโอกาสและรายได้ให้กับชาวบ้านและชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดียิ่งขึ้น
จากแนวคิด“หัตถศิลป์ของชีวิตปัจจุบัน” SACICT ได้จัดงาน Crafts Bangkok ขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปีนี้เป็นปีที่ 2 โดย Crafts Bangkok 2019 จัดขึ้นในแนวคิด “Retell the Details : เล่าเรื่องของเรื่องเล่า” บอกเล่าเรื่องราวงานศิลปหัตถกรรมที่นำมาต่อยอดด้วยนวัตกรรมผสมผสานเทคนิคความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ในทุกมิติการใช้ชีวิตของผู้คนยุคปัจจุบัน โดยการเล่าเรื่องมีความสำคัญอย่างยิ่งกับงานประเภทศิลปหัตถกรรม เนื่องด้วยมีประวัติความเป็นมาองค์ความรู้สืบทอดมาอย่างยาวนาน มีการนำนวัตกรรมประยุกต์เข้ากับงานศิลปหัตถกรรม หรือผสมผสานงานหัตถศิลป์หลากหลายประเภทไว้ด้วยกันอย่างลงตัวและแตกต่าง เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีลวดลายดีไซน์ที่ดึงดูดใจและมีการใช้งานที่กว้างขวางมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์แห่งความประณีตงดงามในแบบฉบับคุณค่างานหัตถศิลป์ไทย ดังนั้นการนำเรื่องราวดั้งเดิมเหล่านั้นมาเล่าใหม่ ในมิติที่แตกต่างออกไปให้สอดคล้องกับค่านิยมปัจจุบันและเทรนด์ยุคใหม่ จึงเป็นการช่วยตอกยํ้าคุณค่าของผลิตภัณฑ์ รายละเอียด และขั้นตอนต่างๆ ที่น่าสนใจ สร้างความประทับใจความภาคภูมิใจให้แก่ผู้บริโภค
Crafts Bangkok 2019 จึงเป็นงานที่คนรักงานคราฟต์ต้องไม่พลาด รวมทั้งประชาชนคนไทยจะได้เห็นความน่าสนใจของชิ้นงานหัตถศิลป์ที่แตกต่างไปจากที่คุ้นเคย ได้รวบรวมทุกเรื่องของงานคราฟต์ในทุกมิติมาไว้ในงานเดียว เพลิดเพลินไปกับผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาชิกของ SACICT ผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ และหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศมาแสดงและจัดจำหน่ายภายในงาน กว่า 350 คูหา มากกว่า 3 หมื่นชิ้น พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ เกี่ยวกับงานคราฟต์ที่จะจุดประกายไอเดียและสร้างแรงบันดาลใจ ได้พบปะพูดคุยในกลุ่มคนรักงานคราฟต์ที่เป็นสีสันและแบ่งปันความสุขแก่กัน เทรนด์คราฟต์ของโลกที่จะเป็นข้อมูลและแนวทางให้ผู้ประกอบการงานคราฟต์ได้ตั้งรับและนำไปพัฒนาตนเอง ตลอดจนการสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้บนความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์
ภายในงานมีจัดแบ่งโซนกิจกรรมที่มีความน่าสนใจมากมาย ประกอบด้วย
-โซน “Story telling” เป็นโซนที่เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ที่ยังคงคุณค่าความประณีตจากภูมิปัญญาดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมแนวคิดนวัตกรรมร่วมสมัย นำเทคนิคใหม่ ๆ เข้ามาต่อยอด เกิดการเล่าเรื่องในมิติที่แตกต่างและน่าสนใจไปจากเดิม
-โซน “Nowadays” เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาชิกของ SACICT ที่เน้นในดีไซน์ การออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก เช่นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเป็นงานคราฟต์ที่สร้างสรรค์และสนับสนุนสังคม
โซน “Royal Project” ซึ่งเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโครงการพระราชดำริ จาก 4 หน่วยงานคือ โครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ , มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 9 , โครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
-โซน “New details” จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสถาบันการศึกษาจำนวน 10 สถาบันที่เป็นพันธมิตรของ SACICT ซึ่งล้วนมาจากพลังของคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานคราฟต์ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ,มหาวิทยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยบูรพา , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , มหาวิทยาลัยมหาสารคาม , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
-โซน “International Crafts” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานคราฟต์จากต่างแดน โดยจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหน่วยงานพันธมิตรในต่างประเทศที่มีความร่วมมือกับ SACICT ทั้งจากผู้ประกอบการกว่า 20 ราย จาก 11 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน อินเดีย คาซัคสถาน อินโดนิเซีย พม่า บังกลาเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศอย่าง World Crafts Council ซึ่งพันธมิตรเหล่านี้ยังจะมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองด้านงานคราฟต์แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย เช่น Korean Craft and Design Foundation- Foundation (KCDF) สาธารณรัฐเกาหลี , National Taiwan Crafts and Research Institute (NTCRI) ไต้หวัน และ Agency for Promotion of Indigenous Crafts (APIC) ประเทศภูฏาน
-โซน Craft Tales ติดอาวุธการตลาดด้วยตัวอย่างการสร้างแบรนด์ของ 11 ผู้ประกอบการงานคราฟต์ ที่ SACICT ผลักดันให้กลุ่ม Start Up พัฒนาศักยภาพและเชื่อมโยงเครือข่ายและ Value Chain สร้างกระบวนการคิดในการสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เสริมความแข็งแกร่งให้แก่หัตถศิลป์ไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งยังเป็นผู้ประกอบการต้นแบบในการพัฒนาและขยายสู่สมาชิกของ SACICT ต่อไป
-โซน “Story telling” เป็นโซนที่เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ที่ยังคงคุณค่าความประณีตจากภูมิปัญญาดั้งเดิม แต่เพิ่มเติมแนวคิดนวัตกรรมร่วมสมัย นำเทคนิคใหม่ ๆ เข้ามาต่อยอด เกิดการเล่าเรื่องในมิติที่แตกต่างและน่าสนใจไปจากเดิม
-โซน “Nowadays” เป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสมาชิกของ SACICT ที่เน้นในดีไซน์ การออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลก เช่นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือเป็นงานคราฟต์ที่สร้างสรรค์และสนับสนุนสังคม
โซน “Royal Project” ซึ่งเป็นการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโครงการพระราชดำริ จาก 4 หน่วยงานคือ โครงการเซรามิค สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ , มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รัชกาลที่ 9 , โครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง
-โซน “New details” จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสถาบันการศึกษาจำนวน 10 สถาบันที่เป็นพันธมิตรของ SACICT ซึ่งล้วนมาจากพลังของคนรุ่นใหม่ที่มีต่องานคราฟต์ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ , มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ,มหาวิทยาลัยรังสิต , มหาวิทยาลัยบูรพา , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง , มหาวิทยาลัยมหาสารคาม , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
-โซน “International Crafts” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานคราฟต์จากต่างแดน โดยจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหน่วยงานพันธมิตรในต่างประเทศที่มีความร่วมมือกับ SACICT ทั้งจากผู้ประกอบการกว่า 20 ราย จาก 11 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย เวียดนาม ไต้หวัน อินเดีย คาซัคสถาน อินโดนิเซีย พม่า บังกลาเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศอย่าง World Crafts Council ซึ่งพันธมิตรเหล่านี้ยังจะมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองด้านงานคราฟต์แก่ผู้ที่สนใจอีกด้วย เช่น Korean Craft and Design Foundation- Foundation (KCDF) สาธารณรัฐเกาหลี , National Taiwan Crafts and Research Institute (NTCRI) ไต้หวัน และ Agency for Promotion of Indigenous Crafts (APIC) ประเทศภูฏาน
-โซน Craft Tales ติดอาวุธการตลาดด้วยตัวอย่างการสร้างแบรนด์ของ 11 ผู้ประกอบการงานคราฟต์ ที่ SACICT ผลักดันให้กลุ่ม Start Up พัฒนาศักยภาพและเชื่อมโยงเครือข่ายและ Value Chain สร้างกระบวนการคิดในการสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เสริมความแข็งแกร่งให้แก่หัตถศิลป์ไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งยังเป็นผู้ประกอบการต้นแบบในการพัฒนาและขยายสู่สมาชิกของ SACICT ต่อไป
-โซนสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใน 3 กิจกรรมคือ กิจกรรม Make: เวิร์คชอปที่คนรักคราฟต์สามารถลงมือทำ DIY งานคราฟต์เก๋ๆด้วยตนเอง , กิจกรรม Meet : ผู้ที่กำลังอยากได้คำแนะนำดี ๆ จาก Craft Guru ที่จะมา Coaching แนวคิดใหม่ๆและโอกาสที่เป็นไปได้ในโลกธุรกิจ และ กิจกรรม Talk : ร่วมฟังการเสวนาจากสารพัดกูรูในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการออกแบบ การตลาด และไลฟ์สไตล์ ที่หมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันมาให้ไอเดียและตอบในทุกข้อสงสัยของงานคราฟต์
Crafts Bangkok 2019 ครั้งนี้จึงเป็นงานคราฟต์ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุดของประเทศ โดย SACICTมุ่งหวังว่าจะเป็นงานสำคัญที่แสดงศักยภาพด้านงานหัตถศิลป์ของไทยให้คนไทยได้เห็นและเป็นที่ประจักษ์ว่า งานหัตถศิลป์ยุคใหม่ของไทยมีการพัฒนาและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มีขีดความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก พร้อมยกระดับศักยภาพผู้สร้างสรรค์งานคราฟต์ ทั้งกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าให้ชิ้นงาน ตลอดจนเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ขยายกลุ่มผู้บริโภคงานหัตถศิลป์ให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น และคาดว่าจะได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากคนรักงานคราฟต์เป็นอย่างดี โดยหวังว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 20,000 ราย และยอดจำหน่ายตั้งเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
เชิญชวนร่วมงาน Crafts Bangkok 2019 ระหว่างวันที่ 4-7 เมษายน 2562 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ ฮอลล์ EH 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.facebook.com/sacict หรือ Call Center 1289
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น