กิลิ ลังกันฟูชิ รีสอร์ตหรูแนวธรรมชาติกลางทะเลมัลดีฟส์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในเดือนธันวาคม 2562

กิลิ ลังกันฟูชิ (Gili Lankanfushi) รีสอร์ตกลางทะเลยอดนิยมแห่งมัลดีฟส์ กำหนดเปิดบริการอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม 2562 พร้อมเผยโฉมการตกแต่งใหม่ที่สวยงามและมอบความสะดวกสบายในระดับไฮเอนด์ ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบแนวใหม่และโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม นำเสนอปรัชญาแห่งการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งที่สวยงาม หากคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายและเน้นการใช้วัสดุธรรมชาติ เพื่อให้ กิลิ ลังกันฟูชิ เป็นสรวงสวรรค์บนแนวคิดอันยั่งยืน พร้อมต้อนรับท่องเที่ยวระดับหรูที่ต้องการสัมผัสกับกลิ่นอายธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

กิลิ ลังกันฟูชิ เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 2012 โดยได้รับการโหวตจาก TripAdvisor ให้เป็น “โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก (Best Hotel in the World)” ด้วยอากาศที่บริสุทธิ์และบริการที่ดีเยี่ยม รีสอร์ตตั้งอยู่บนท้องทะเลที่สวยงามของแนววงแหวนปะการังทางเหนือของเกาะมาเล่ โดยใช้เวลาเดินทางด้วยเรือจากเกาะมาเล่เพียง 20 นาทีสู่เกาะที่สงบเงียบแห่งนี้ นำเสนอห้องพักแบบวิลล่าที่ได้รับการตกแต่งใหม่ 45 หลัง เพียบพร้อมด้วยพื้นที่พักผ่อนแบบเปิดโล่งรับสายลมธรรมชาติ ระเบียงพักผ่อนบนหลังคา และลานพักผ่อนส่วนตัวที่เชื่อมต่อสู่ลากูน ภายในห้องพักทั้งแบบเรสซิเดนซ์และวิลล่าที่ได้รับการตกแต่งใหม่ พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้เข้าพัก สำหรับห้องพักแบบแฟมิลี่วิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำ ถือเป็นบริการห้องพักรูปแบบใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาในรีสอร์ต ซึ่งประกอบด้วยห้องนอนหรู 2 ห้อง สระว่ายน้ำส่วนตัวเพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานท่ามกลางสายลมและแสงแดดกันอย่างเต็มที่ พื้นที่ระเบียงบนหลังคาสำหรับการพักผ่อน กิจกรรมสันทนาการ และรับประทานอาหาร รวมถึงห้องนั่งเล่นซึ่งตั้งยู่เหนือลากูนซึ่งเชื่อมต่อถึงกันด้วยทางเดินที่ปลอดภัย และห้องพักแบบไพรเวตรีเสิร์ฟ ขนาด 1,700 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องพักเหนือน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ห่างจากฝั่ง 500 เมตร นำเสนอห้องนอนขนาดใหญ่พิเศษ 4 ห้อง ห้องชมภาพยนตร์ส่วนตัวแบบเปิดโล่ง ห้องสปาส่วนตัว ห้องออกกำลังกายปรับอากาศ สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พูล และสไลเดอร์ 2 ชั้นที่ทอดตัวลงสู่ลากูนสีฟ้าใสราวแก้วคริสตัล

การตกแต่งภายใน
สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่สวยงามของเกาะ วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และแนวคิดความยั่งยืน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบตกแต่งรีสอร์ต เพื่อให้บรรยากาศภายในห้องพักและธรรมชาติโดยรอบผสานรวมกันอย่างกลมกลืน เน้นการใช้โทนสีธรรมชาติที่อบอุ่นของสิ่งทอจากเส้นใยธรรมชาติในท้องถิ่น เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นทั้งภายในวิลล่าและพื้นที่พักผ่อนถูกผลิตขึ้นใหม่โดยใช้แรงงานช่างฝีมือในท้องถิ่นที่มีความเชี่ยวชาญสูง เน้นการใช้วัสดุอัพไซเคิลหลายชนิด อาทิ การนำโครงเตียงไม้สักเก่ามารีไซเคิล โคมไฟที่ถักจากตะแกรงรีไซเคิลตกแต่งด้วยลายปลาและเต่าจากท้องทะเลโดยรอบ และปลอกหมอนอิงพิมพ์ลายปะการังที่พบได้ในแนวปะการังของเกาะแห่งนี้ โต๊ะกาแฟที่ถูกแกะสลักเป็นลายกลุ่มดาวเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแสนสบายในคืนฟ้าโปร่ง ประดับโคมแขวนซึ่งถักจากโครงไม้ไผ่ตาข่ายดักกุ้ง แขกผู้เข้าพักยังสามารถเลือกตั้งเดย์เบดบนหลังคาเพื่อเอนกายนอนหลับไปท่ามกลางหมู่ดาวยามราตรี โดยมีบัตเลอร์ซึ่งพร้อมทุ่มเทตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักในวิลล่าทุกหลังอย่างเต็มที่

ประสบการณ์ของผู้มาเยือน
กิลิ ลังกันฟูชิ ฉลองการเปิดบริการอีกครั้ง นำเสนอโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมรูปแบบใหม่ที่ผสานบริการเพื่อการพักผ่อนระดับหรูท่ามกลางบรรยากาศที่สงบเงียบจาก มีรา สปา (Meera Spa) และการให้ความรู้ด้านสุขภาพจากทีมผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ มารีน ไบโอโลจี แช็ค (Marine Biology Shack) ซึ่งมีทั้งโปรแกรมโฮลิสติก ฮีลลิ่ง (Holistic Healing) แผนการดูแลสุขภาพแบบ 5 คืน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สปาที่ล้ำลึกเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและมอบเคล็ดลับการรักษาความอ่อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ โปรแกรมเริ่มต้นด้วยการพูดคุยปรึกษาแบบตัวต่อตัวกับผู้เชี่ยวชาญ คลาสโยคะประจำวัน คลาสฝึกการหายใจ ทรีทเมนต์ชั้นเลิศ และเวิร์กช็อปการทำน้ำมันหอมระเหยเพื่อเป็นของที่ระลึกนำกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม ไดฟ์ แอนด์ ดิสคัฟเวอร์ (Dive & Discover) หลักสูตรสอนดำน้ำ 5 วันเพื่อการสำรวจความงดงามใต้ทะเล พร้อมทริปดำน้ำประจำวัน การดำน้ำแบบสน็อกเกิลช่วงกลางคืนภายใต้การดูแลของครูฝึก คอร์สปลูกปะการังร่วมกับนักชีววิทยาทางทะเลเพื่อสนับสนุนโครงการแนวปะการังใต้ทะเล (The Coral Lines Project) และบริการสปานวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อระดับลึกเพื่อสร้างความกระปรี้กระเปร่า นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรม เซิร์ฟ แอนด์ สปา (Surf & Spa) โปรแกรมกิจกรรม 4 คืนสำหรับนักกีฬาที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและพร้อมสำรวจโลกใหม่ด้วยใจที่มุ่งมั่น โดยเริ่มต้นวันด้วยคลาสโยคะช่วงเช้าตรู่ ตามด้วยคลาสฝึกซ้อมกระดานโต้คลื่นในลากูนและการท่องเที่ยวป่าละเมาะพร้อมผู้นำทางร่วมกับนักชีววิทยาทางทะเลเพื่อการศึกษาเรียนรู้ชีวิตใต้ท้องทะเลของเกาะ และจบคอร์สอย่างผ่อนคลายด้วยบริการนวดกดจุดในสปา เพื่อคลายความปวดเมื่อยอย่างได้ผลและช่วยให้คุณนอนหลับสนิทตลอดคืน

บริการอาหารและเครื่องดื่ม
เติมเต็มช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวและการพักผ่อนอย่างเต็มอรรถรสด้วยมื้ออาหารสไตล์มัลดีฟส์รสเลิศแนวใหม่ที่สรรหาวัตถุดิบบนแนวทางที่ยั่งยืน ปรุงในครัวเปิดของ กาชิเวลิ (Kashiveli) ร้านอาหารระดับซิกเนเจอร์ของรีสอร์ต ซึ่งตั้งอยู่บนชายหาดที่สวยงามและเงียบสงบ นำทีมโดยพ่อครัวใหญ่ ฮารี โกวินทาราจ ซึ่งทำงานในรีสอร์ตนี้มานานกว่า 12 ปี และทำหน้าที่ดูแลสวนผักกิลิในบริเวณรีสอร์ต์ซึ่งเพาะปลูกพืชสมุนไพร ผัก และผลไม้ระบบอินทรีย์ เพื่อนำมาปรุงเป็นเมนูอาหารชั้นเลิศในรีสอร์ต แขกผู้เข้าพักยังสามารถสมัครเรียนคอร์สทำอาหารด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลแบบตัวต่อตัวกับเชฟฮารี พร้อมรับสูตรอาหารที่เขียนด้วยลายมือเชฟเพื่อนำกลับไปเป็นของที่ระลึกของการมาพักผ่อนที่ กิลิ ลังกันฟูชิ แห่งนี้

อัตราห้องพักของ กิลิ ลังกันฟูชิ เริ่มต้นที่ 1,440 ดอลลาร์ต่อคืน สำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน โปรแกรมการดูแลสุขภาพ เริ่มต้นที่ 1,443 ดอลลาร์ต่อคืน www.gili-lankanfushi.com

*** ดูข้อมูลเพิ่มเติมและรูปภาพความละเอียดสูง ที่นี่ ***

กิลิ ลังกันฟูชิ มัลดีฟส์ ตั้งอยู่บนท้องทะเลที่สวยงามของแนววงแหวนปะการังทางเหนือของเกาะมาเล่ เปิดบริการในปี ค.ศ. 2000 ในชื่อ โซเนวา กิลิ (Soneva Gili) ต้นฉบับรีสอร์ตบนน้ำอันเลื่องชื่อ ต่อมาในปี ค.ศ. 2012 เกาะแห่งนี้ได้ถูกครอบครองโดยเอชพีแอล (HPL - Hotel Properties Limited) บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงแรมและโครงการแนวล์สไตล์หลายแห่งทั่วโลก โดยรีสอร์ตได้รับการโหวตโดย TripAdvisor ให้เป็นโรงแรมอันดับหนึ่งของโลกในปี ค.ศ. 2015 และสามารถเดินทางด้วยเรือสปีดโบ้ทจากท่าอากาศยานนานาชาติมาเล่โดยใช้เวลาเพียง 20 นาที รีสอร์ตตั้งอยู่กลางลากูนที่สวยงามทำให้ผู้มาพักสามารถมองเห็นทัศนียภาพรอบทิศทางของมหาสมุทรอินเดียได้โดยไร้สิ่งบดบัง กิลิ ลังกันฟูชิ นำเสนอวิลล่ากลางทะเล 45 หลัง ซึ่งรวมถึงห้องพักแบบไพรเวตรีเสิร์ฟซึ่งมอบบรรยากาศแห่งการพักผ่อนแบบส่วนตัวระดับสูงสุด กิลิ ลังกันฟูชิ ถือว่าความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรโลกเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้บริการของรีสอร์ตเน้นการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเลที่เปราะบาง และฝากไว้เพียงความประทับใจในธรรมชาติอันงดงาม