ในการประชุมคณะกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ที่ ห้องประชุม 408 อาคารรัฐสภา โดย ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา เป็นประธาน เมื่อวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 นั้น ปรากฏว่า ผู้เกี่ยวข้องกับกีฬามวยไทยทุกองค์กร และทุกฝ่าย ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมหน้า ในโอกาสนี้ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ได้ชี้แจงถึงกรณีที่ IFMA มีจดหมายถึงประเทศสมาชิกหลายประเทศ เพื่อให้ควบคุมดูแลเกี่ยวกับกรณีที่มีคณะบุคคลในประเทศนั้น พยายามดำเนินการจัดตั้งสมาคมหรือสหพันธ์มวยไทยแห่งชาติขึ้นมา ซ้ำซ้อนกับองค์กรมวยไทยที่เป็นสมาชิก IFMA ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นและไม่สามารถได้รับการรับรองจาก IFMA หรือ IOC ได้ เพราะหนึ่งประเทศ จะมีเพียงหนึ่งสหพันธ์หรือหนึ่งสมาคมฯ เท่านั้น ที่เป็นสมาชิกของ IFMA ได้ ซึ่งในหนังสือดังกล่าว ได้พูดถึงข้อบังคับ IFMA ที่ IOC จดทะเบียนรับรองแล้วโดยระบุว่ามวยไทยหมายถึง มวยไทยโบราณ มวยทะเลหรือมวย หรือกิจกรรมการแข่งขัน ที่มีลักษณะรูปแบบเหมือนมวยไทย ซึ่งข้อความดังกล่าวถูกองค์กรกีฬามวยไทยและคณะบุคคลในประเทศไทยคัดค้านและโจมตีว่า IFMA มีเป้าหมายที่จะยึดมวยไทยเป็นของตัวเอง ซึ่งดร.ศักดิ์ชายกล่าวว่า เมื่อตรวจสอบกันอย่างละเอียดแล้ว ทุกถ้อยคำไม่มีประโยคใดที่หมายถึงการยึดคลองมวยไทยแต่อย่างใด ปัญหาที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากความคลาดเคลื่อนในการแปลความหมาย
ในขณะเดี่ยวกันดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุน คำชี้แจงของดร.ศักดิ์ชาย โดยแจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้ตรวจสอบข้อความภาษาอังกฤษแล้วเป็นไปตามที่ดร.ศักดิ์ชายชี้แจง
ในขณะเดี่ยวกันดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุน คำชี้แจงของดร.ศักดิ์ชาย โดยแจ้งต่อที่ประชุมว่า ได้ตรวจสอบข้อความภาษาอังกฤษแล้วเป็นไปตามที่ดร.ศักดิ์ชายชี้แจง
สำหรับ Mr. Stephan Fox เลขาธิการ IFMA ได้ยืนยันเจตนารมณ์ ในการเสนอข้อบังคับเข้าสู่การรับรอง IOC ว่าได้คำนึงถึงความเป้ามาและรากเหง้าของมวยไทยเป็นสำคัญ นอกจากนั้นวัฒนะธรรม ประเพณีเกี่ยวกับมวยไทย ที่กลายเป็นมรดกอันล้ำค่าของมวยไทยในขณะนี้ ก็เป็นสิ่งที่ IFMA จะต้องให้ความเคารพ จึงเสนอให้ IOC รับรองอันจะนำมาซึ่งเกรียติภูมิของประเทศไทยโดยตรง
ส่วนประเด็นที่สมาคมกีฬามวยอาชีพได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแต่งตั้งขณะกรรมส่งเสริมยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิกส์ 2024 นั้น สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดย ดร.ก้องด แถลงต่อที่ประชุมว่ายินดีให้ผู้แทนหรือนายกสามาคมกีฬามวยอาชีพเข้ามาเป็นกรรมการด้วย
สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ IFMA ว่ามีแผนที่จะยึกมวยไทยเป็นของตัวเองนั้น ดร. บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานที่ประชุมได้สรุปว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดก ภูมิปัญญาศิลปวัฒนธรรมของชาติไว้ ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งหมายความว่า ไม่มีใครสามารถมาเป็นเจ้าของมวยไทยได้นอกจากประเทศไทย
ส่วนประเด็นที่สมาคมกีฬามวยอาชีพได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการแต่งตั้งขณะกรรมส่งเสริมยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนมวยไทยสู่โอลิมปิกส์ 2024 นั้น สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ โดย ดร.ก้องด แถลงต่อที่ประชุมว่ายินดีให้ผู้แทนหรือนายกสามาคมกีฬามวยอาชีพเข้ามาเป็นกรรมการด้วย
สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ IFMA ว่ามีแผนที่จะยึกมวยไทยเป็นของตัวเองนั้น ดร. บุญลือ ประเสริฐโสภา ประธานที่ประชุมได้สรุปว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้ขึ้นทะเบียนมวยไทยเป็นมรดก ภูมิปัญญาศิลปวัฒนธรรมของชาติไว้ ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งหมายความว่า ไม่มีใครสามารถมาเป็นเจ้าของมวยไทยได้นอกจากประเทศไทย
สรุปผลการประชุมก็คือ ทั้งฝ่ายสมาคมกีฬามวยอาชีพและมวยไทยสมัครเล่น สามารถทำความเข้าใจและเป็นมิตรกันได้ และพร้อมที่จะทำMOU ร่วมกัน เพื่อผลักดันมวยไทยสู่ประชาคมโลกและโอลิมปิกเกมส์
สำหรับสาระสำคัญใน MOU หรือบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ประกอบด้วย
สำหรับสาระสำคัญใน MOU หรือบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ประกอบด้วย
1. เพื่อร่วมมือกันกำหนดนโยบายในการพัฒนาและป้องกันอันตราต่อเด็ก และเยาวชน
2. เพื่อร่วมมือกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายในการป้องกันเกี่ยวกับ สุขภาพและสวัสดิภาพของนักกีฬามวย โดยการยึดมั่นในการตรวจเลือด และสิ่ง อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและสวัสดิภาพ
3. เพื่อร่วมมือกันกำหนดยุทธศาสตร์การส่งเสริมอาชีพของนักกีฬา มวยไทยในช่วงการชกมวยและภายหลังการเลิกชกมวย
4. เพื่อร่วมมือกันในการให้ความรู้เรื่องการป้องกันการใช้สารต้องห้าม ในช่วงก่อนและขณะการแข่งขัน ที่ดำเนินการภายใต้สหพันธ์กีฬานานาชาติของ กีฬามวยไทยที่เป็นผู้ได้รับอำนาจเต็มจาก WADA
5. เพื่อร่วมมือกันในการป้องกัน ส่งเสริม วัฒนธรรม และประเพณี อันเป็น รากฐานสำคัญของมวยไทยไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบของการแสดงหรือการ แข่งขัน โดยเฉพาะในเรื่องดนตรี ปี่ มวย และการไหว้ครู
6. ให้ความร่วมมือกับองค์กรกีฬานานาชาติที่ได้รับการรับรองโดย IOC และ OCA เพื่อแสดงให้เกิดความมั่นใจต่อการจัดการแข่งขันมวยไทยในรายการที่ คณะกรรมการโอลิมปิกสากลให้การรับรอง
7. เพื่อร่วมมือกันในการส่งเสริมขบวนการป้องกันการใช้สารต้องห้ามใน การจัดการแข่งขันระดับนานาชาติที่จัดขึ้นในประเทศไทย
อนึ่งในการประชุม United Thought to Muaythai Conference ซึ่งหมายถึงการรวมพลังเป็นหนึ่งเพื่อมวยไทยสู่ประชาคมโลกและโอลิมปิก ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 นั้น ดร.บุญลือ ประเสริฐโสภา ได้ให้เกียรติไปเป็นประธานและกล่าวเปิดการประชุมด้วย โดยในการประชุมดังกล่าว มีผู้เข้าร่วมรับฟังมากกว่า 150 คน สำหรับวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่ร่วมให้ข้อมูลในการประชุมประกอบด้วย ผู้แทนสหประชาชาติ (UNESCO) ผู้แทน IOC และผู้แทน IFMA
นอกจากนั้นก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงสมเด็จพระเจ้าเสือ “พระมหากษัตริย์นักมวย” เนื่องในวันมวยไทย (Muaythai Day) ด้วย ในการนี้ ประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้เกียรติโปรยดอกไม้สักการะ ก่อนจะปิดพิธีบวงสรวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น