อว. บีโอไอ เดลต้า ผนึกกำลังพัฒนาระบบอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูง สำหรับชุดปลอดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์ (PAPR) - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563

อว. บีโอไอ เดลต้า ผนึกกำลังพัฒนาระบบอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูง สำหรับชุดปลอดเชื้อให้บุคลากรทางการแพทย์ (PAPR)


เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มร.แจ็คกี้ ชาง (Jackie Chang) ประธานบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และศาสตราจารย์ ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ แถลงความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาชุดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงวิกฤตโรคโควิด-19 


โดยบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน วช. และเครือข่ายวิชาการได้พัฒนาและสนับสนุนระบบพัดลมปลอดเชื้อคุณภาพสูง (DC Fan) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญของชุดปลอดเชื้อความดันบวกและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (Powered Air-Purifying Respirators หรือ PAPR) ที่พัฒนาโดยสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ซึ่งพัดลมจะดูดอากาศจากภายนอกผ่านตัวกรองอากาศ เพื่อเปลี่ยนให้เป็นอากาศที่สะอาดแล้วจ่ายลมให้กับหน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกที่บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยต้องใช้ 


ทั้งนี้บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้มอบระบบพัดลมปลอดเชื้อ จำนวน 10,500 เครื่อง ให้กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อส่งมอบให้กับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชโดยคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เพื่อดำเนินการนำไปประกอบการผลิตชุดปลอดเชื้อและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกให้บุคลากรทางการแพทย์ต่อไป 


กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีนโยบายเตรียมความพร้อมให้กับประเทศ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยความร่วมมือกับหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานในสังกัด มหาวิทยาลัย ภาคเอกชน และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งนโยบายสำคัญคือการสนับสนุนการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงให้เพียงพอกับความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ โดยได้มอบให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) บริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นโครงการเร่งด่วนตามความต้องการของประเทศที่ใช้ในการควบคุมป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น การวิจัย และพัฒนาหน้ากากอนามัย N95เพื่อใช้ทางการแพทย์ ชุดป้องกันส่วนบุคคลของบุคลากรการแพทย์ (Personal Protective Equipment หรือ PPE) เช่น หน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะชนิดมีพัดลม พร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) เสื้อกาวน์ป้องกันการติดเชื้อ (Surgical gown) และชุดป้องกันร่างกาย (Safety cover all) เครื่องช่วยหายใจ (Ventilators/Respirators) ระบบห้องและการปรับอากาศแรงดันลบ (Negative-pressure Facilities) และโรงพยาบาลสนาม 


“ระบบพัดลมปลอดเชื้อคุณภาพสูงซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์สำคัญที่ทีมวิจัยและนวัตกรรมของบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) พัฒนาโดยร่วมกับบีโอไอที่ได้ให้การสนับสนุนนวัตกรรมนี้ ถือเป็นตัวอย่างของความร่วมมือของทุกภาคส่วนเพื่อคนไทย เป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ และสร้างอุปกรณ์ที่ถือเป็นเครื่องมือหลักของบุคลากรทางการแพทย์ ในสถานการณ์เช่นนี้หน้ากากป้องกันเชื้อโรคความดันบวกพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (PAPR) นี้จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีความปลอดภัย และเกิดความมั่นใจในการดูแลผู้ป่วย ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ นักวิจัยและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในความพยายามทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างเต็มที่ และขอให้ทุกท่านมั่นใจว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะร่วมสนับสนุนและอยู่เคียงข้างทุกท่านในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” ดร.สุวิทย์ กล่าว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here