“เจพี ประกันภัย” เปิดแพลตฟอร์มใหม่ ‘JP Connect’ เว็บไซต์ออนไลน์แหล่งรวมสินค้าประกันครบจบที่เดียว - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563

“เจพี ประกันภัย” เปิดแพลตฟอร์มใหม่ ‘JP Connect’ เว็บไซต์ออนไลน์แหล่งรวมสินค้าประกันครบจบที่เดียว


“เจพี ประกันภัย” ยกระดับการขายประกันผ่านออนไลน์รับ New Normal เปิดแพลตฟอร์มใหม่ ‘JP Connect’ เว็บไซต์ออนไลน์ที่เป็นแหล่งรวมสินค้าประกันครบจบในที่เดียว รับกรมธรรม์ได้ทันใจภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมเปิดตัว “ประกันภัยไข้เลือดออก” รุกตลาดช่วงฤดูฝน เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 100 บาทต่อปี

นางสาวศศิวิมล ลักษณ์อำนวยพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กำกับและดูแลฝ่าย Marketing Innovation บริษัท เจพี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ JP เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และความปกติวิถีใหม่ (New Normal) จะเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป หันมาสนใจการซื้อขายบนออนไลน์กันมากขึ้น โดยผู้ขายเองมีการปรับกลยุทธ์ทางการค้าด้วยการจัดทำระบบออนไลน์หรือเดลิเวอรี่รับการบริการสินค้าที่สะดวกและรวดเร็วให้กับผู้บริโภค เจพี ประกันภัย จึงได้ปรับกลยุทธ์ของธุรกิจโฟกัสการทำงานบนอินชัวร์เทค (Insurtech) ด้วยการยกระดับไปสู่การขายประกันผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการให้บริการสินไหมแบบออนไลน์ โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ที่ชื่อว่า ‘JP Connect’ ขึ้นมาเพื่อใช้ในการเชื่อมต่อไปหาลูกค้าของบริษัท รวมไปถึงให้กับ Synergy Group และกลุ่มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ที่จะช่วยสร้างกลุ่มเป้าหมายที่จะกลายเป็นลูกค้า (Lead Generation) ของบริษัท ซึ่งจะสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของเจพีประกันภัยได้ง่ายขึ้น


โดย JP Connect จะเป็นเว็บไซต์สำหรับการรวบรวมสินค้าประกันออนไลน์ของบริษัทไว้ในที่เดียวผ่าน www.jpinsurance.co.th เพื่อให้ง่ายต่อการทำรายการ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีประกันภัยหลากหลายประเภทแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 1. ประกันภัยรถยนต์ (Motor) ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ประเภทรถเก๋งและรถกระบะ ที่จ่ายเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 568 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันภัยกับบริษัทในช่องทางออนไลน์ หรือที่ https://bit.ly/2WmXatc และประกันรถยนต์ 3+ รายเดือน ที่สามารถเลือกระยะเวลาคุ้มครองได้ทั้งแบบ 30 วัน และ 90 วัน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2AcNR6y 2. ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non–Motor) ได้แก่ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันไวรัสโควิด-19 และประกันภัยไข้เลือดออก สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/36xVz7l 


นอกจากนี้ บริษัทยังมีประกันแบบกึ่งออนไลน์ อย่างประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับพนักงานขนส่งสินค้า (เดลิเวอรี่) ซึ่งปกติแผนประกันอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะยกเว้นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถจักรยานยนต์ แต่บริษัทมองว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันผู้ประกอบอาชีพนี้มีค่อนข้างมากและอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคทำให้สะดวกในการจับจ่ายซื้อสินค้ากัน จึงทำแผนประกันภัยสำหรับพนักงานเดลิเวอรี่ขึ้นมาเฉพาะ เพื่อให้ความดูแลพนักงานกลุ่มนี้ ด้วยเบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 350 บาทต่อปี

ทั้งนี้ เจพี ประกันภัย ได้สำรวจปัญหา (Pain Point) ของการซื้อประกันออนไลน์ และพบว่าลูกค้าต้องการได้รับกรมธรรม์ภายในวันที่ทำรายการ และมีทางเลือกระบบการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งเจพี ประกันภัย เตรียมความพร้อมระบบดังกล่าวไว้เรียบร้อยเมื่อลูกค้าทำรายการซื้อสินค้าของบริษัทจะได้รับกรมธรรม์ภายใน 24 ชั่วโมง โดยสามารถเลือกชำระเงินได้ผ่านบัตรเครดิต ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือโมบายแบงก์กิ้งเพียงแค่นำ QR Code ไปสแกนชำระเงิน และบริษัทจะมีระบบแจ้งเตือนเมื่อกรมธรรม์ของลูกค้าจะหมดอายุอีกด้วย

“ช่วงที่ผ่านมาเราได้ทดลองระบบการขายกรมธรรม์ออนไลน์อย่างประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลและการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ถึงแม้ว่าจะมีการติดขัดของการเปิดขายก็ตาม แต่ทีมไอทีและทีมมาร์เก็ตติ้งมีการปรับปรุงระบบอยู่ตลอด ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหลังบ้านได้แบบทันท่วงที” 


นางสาวศศิวิมล กล่าวต่อว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกที่กำลังระบาดในช่วงฤดูฝน บริษัทจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยไข้เลือดออก เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 100 บาทต่อปี แต่ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาลกรณีเป็นผู้ป่วยในตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ด้วยวงเงิน 30,000 บาทต่อครั้ง และเงินชดเชยรายวันกรณีเป็นผู้ป่วยใน ถึงวันละ 1,500 บาท สูงสุด 30 วัน โดยสามารถซื้อออนไลน์และรับกรมธรรม์ทันทีภายใน 24 ชั่วโมง 

“อย่างไรก็ดี เจพี ประกันภัย ยังมีการนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาประชาสัมพันธ์ผ่านกลุ่ม synergy อาทิบริษัทในเครือเจมาร์ท ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และพันธมิตรของต่างๆ ของบริษัท ซึ่งจะทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น โดยที่ลูกค้าสามารถมองหาผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัทได้ตามหน้าร้านหรือสาขาของกลุ่มเจมาร์ท, Jas Urbun และบริษัท เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) รวมถึงพันธมิตรได้สะดวกยิ่งขึ้น” นางสาวศศิวิมล กล่าวในตอนท้าย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here