ไทยเบฟ ตอกย้ำการเป็น Stable and Sustainable Asean Leader ต่อยอด Vision 2020 ขับเคลื่อนสู่ PASSION 2025 ก้าวผ่านวิกฤติ กับก้าวที่แกร่งกว่าเดิม - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ไทยเบฟ ตอกย้ำการเป็น Stable and Sustainable Asean Leader ต่อยอด Vision 2020 ขับเคลื่อนสู่ PASSION 2025 ก้าวผ่านวิกฤติ กับก้าวที่แกร่งกว่าเดิม


บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวทิศทางการดำเนินธุรกิจประจำปี 2563 พร้อมเปิดตัว PASSION 2025 โชว์ศักยภาพความแข็งแกร่ง และกลยุทธ์การปรับตัวในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ตอกย้ำ ความเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรอันดับหนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียน ที่เติบโต มั่นคง ยั่งยืน นำโดย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย คุณประภากร ทองเทพไพโรจน์
รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา, รองผู้บริหารสูงสุด การเงินและบัญชีกลุ่ม และผู้บริหารสูงสุดด้านการเงินและบัญชี ธุรกิจต่างประเทศ คุณไมเคิล ไชน์ ฮิน ฟา ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจเบียร์ คุณโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง และ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (ประเทศไทย), ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มบริหาร ช่องทางการจำหน่าย คุณเลสเตอร์ ตัน ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจเครื่องดื่ม ไม่มีแอลกอฮอลล์ ประเทศไทย คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) และ ดร. เอกพล ณ สงขลา รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้บริหารสูงสุด กลุ่มทรัพยากรบุคคล ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ 


คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ทุกคนต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างยิ่ง กลุ่มไทยเบฟก็สามารถยังยืนหยัดพร้อมกับเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้มากกว่าเดิม แม้เราจะได้รับผลกระทบต่อยอดขายบ้าง ในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญกับพนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนของเรา โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติพิเศษในสถานการณ์ COVID-19 หรือ ThaiBev Situation Room (TSR) เพื่อเป็นศูนย์ติดตามข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงติดตามการดำเนินงานของกลุ่มไทยเบฟให้สามารถผลิตและจัดส่งสินค้าได้ตามจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ดำเนินการดูแลสุขภาพของพนักงาน ซึ่งเป็นบุคลากรกลุ่มสำคัญในการสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง และยังได้นำเอารูปแบบการปฏิบัติงานในระบบดิจิทัลมาเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้มากกว่า 95% ของพนักงานบริษัทฯ สามารถเข้าสู่กระบวนการทำงานของระบบดิจิทัล ในวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ ไทยเบฟให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงาน เครือข่ายคู่ค้า บุคลากรแนวหน้าทางการแพทย์ และบุคลากรภาครัฐ โดยได้ลงทุนในการผลิตและจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ จัดตั้งศูนย์ตรวจโควิด-19 แบบ PCR ดำเนินการแจกจ่ายแอลกอฮอล์ ไปกว่า 1 ล้านลิตร ผลิตและแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เพื่อให้ความปลอดภัยกับทุกภาคส่วนและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของเราทุกท่าน


ความก้าวหน้าที่สำคัญในช่วง 6 ปี ตั้งแต่ 2014-2020 ตามแผน Vision 2020 นั้น ยอดขายและกำไรของเราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยเบฟเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยเราได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็น สุรา เบียร์ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และ อาหาร รวมถึงการดำเนินงานของหน่วยงานสนับสนุนธุรกิจ ไทยเบฟคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสุรา ในธุรกิจเบียร์เมื่อรวมยอดขายของเบียร์ในประเทศไทย และในประเทศเวียดนาม ถือได้ว่าเรามีปริมาณยอดขายเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน เราเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาทิ ชาเขียวโออิชิ น้ำดื่มคริสตัล และขับเคลื่อนธุรกิจอาหารจนทำให้เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย นอกจากนั้นเราก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องของ ความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไทยเบฟได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices -DJSI เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เป็น Word Industry leader ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 และได้เป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 และกลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets หรือกลุ่มตลาด เกิดใหม่ เป็นปีที่ 4 โดยไทยเบฟนับเป็นบริษัทแรกในประเภทอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของอาเซียนที่ได้รับ การคัดเลือกให้เป็น World Leader ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาความยั่งยืนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนองค์กรภายใต้ Vision 2020 


วันนี้กลุ่มไทยเบฟพร้อมที่จะก้าวไปสู่ก้าวที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ต่อยอดความสำเร็จจาก Vision 2020 ขับเคลื่อนสู่ PASSION 2025 ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เราจึงมีแผนในการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า ภายใต้ 3 แนวทางหลักคือ BUILD สรรสร้าง ขีดความสามารถ STRENGTHEN เสริมแกร่งความเป็นหนึ่ง และ UNLOCK สุดพลังศักยภาพไทยเบฟ

  -BUILD (สรรสร้างความสามารถ) คือ สรรสร้างความสามารถและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยต่อยอดจากพื้นฐานธุรกิจที่มีอยู่
  -STRENGTHEN (เสริมแกร่งความเป็นหนึ่ง) คือ เสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก เพื่อรักษา และก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน
  -UNLOCK (สุดพลังศักยภาพไทยเบฟ) คือ นำศักยภาพของไทยเบฟที่มีอยู่มาก่อให้เกิดพลังสูงสุด


คุณประภากร ทองเทพไพโรจน์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด กลุ่มธุรกิจสุรา (รองผู้บริหารสูงสุด การเงินและบัญชีกลุ่ม และผู้บริหารสูงสุด ด้านการเงินและบัญชี ธุรกิจต่างประเทศ : มีผลวันที่ 1 ตุลาคม 2563) เผยว่า
“ในปีที่ผ่านมาเราผ่านสถานการณ์ที่มีความท้าทายอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน กลุ่มธุรกิจสุราในเมืองไทยยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้ดีเหมือนเดิมเนื่องจากบริษัทมีความหลากหลายของตราสินค้าซึ่งตอบรับการบริโภคสินค้าที่บ้าน และการทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับภาพลักษณ์สุราไทย (premiumization) หากดูจากผลวิจัยการตลาด ในรอบ12 เดือนย้อนหลัง แสงโสมสามารถเติบโตกว่า 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในส่วนของ เบลนด์ 285 ซิกเนเจอร์ ยังสามารถเพิ่มการเติบโตได้ถึง 37% นอกไปจากนั้น เมอริเดียนบรั่นดี ยังสามารถเพิ่มการเติบโตได้ถึง 50% และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 8% ในปีนี้กลุ่มธุรกิจสุรายังได้มีการออกผลิตภัณฑ์ Phraya Elements ซึ่งเป็นสุราระดับพรีเมียมที่ผ่านการเก็บบ่มในถังไม้โอ๊คยาวนานหลายปี ในบรรจุภัณฑ์ที่สวยงามหรูหราโดยวางจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรด”


คุณนงนุช บูรณะเศรษฐกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด สายธุรกิจอาหาร (ประเทศไทย) เผยว่า
“กลุ่มธุรกิจอาหารยังคงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจ ปรับแผนกลยุทธ์เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากวิกฤติโควิด-19 เร่งขยายช่องทางการขายแบบ Takeaway และ Delivery ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว รุกทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และรูปแบบบริการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค อย่างแม่นยำและเข้าถึงผู้บริโภคให้มากที่สุด แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มสามารถควบคุมได้มากขึ้น แต่ยังคงต้องให้น้ำหนักกับการวางแผนธุรกิจอย่างระมัดระวัง เพื่อรองรับสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เร่งการสร้างการเติบโตของธุรกิจจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ที่เติบโตอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาและยังคงได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากลูกค้าที่เริ่มคุ้นชินกับระบบดังกล่าว รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์และรูปแบบร้านใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนไป สำหรับแผนกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจอาหารในปี 2564 ภายใต้ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีโจทย์ท้าทายควบคู่กับบทบาทของเทคโนโลยี ส่งผลให้การใช้ชีวิตของลูกค้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ธุรกิจจำเป็นต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว สร้างศักยภาพ พร้อมที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ และพร้อมที่จะขับเคลื่อนภายใต้กลยุทธ์หลักๆ อันได้แก่ 
  1.การขยายสาขาในรูปแบบต่าง ๆ ให้เหมาะกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป 
  2.กลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งเน้นการขยายช่องทางการให้บริการหลายรูปแบบ นอกเหนือจากรูปแบบของการนั่งทานที่ร้าน เช่น ช่องทางการจัดส่งถึงบ้าน (Home Delivery), Take home/Pick up, ไดร์ฟทรู และอื่น ๆ 
  3.การนำเอาดิจิทัลและเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อสามารถสร้างประสบการณ์ ความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้แบบ Personalization และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับพนักงานมากยิ่งขึ้น 
  4.Heath & Well-being มุ่งเน้นพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่อง สุขภาพ-ความปลอดภัย 
  5.การเสริมสร้างบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพด้านทักษะ ความชำนาญในการทำงาน เพื่อพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่มีความคล่องตัวสูง”


"ผมขอยืนยันในศักยภาพของเราที่มีความพร้อมอย่างรอบด้าน และความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจ ในกลุ่มไทยเบฟ ร่วมกับคณะผู้บริหาร และเครือข่ายพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างสรรค์ และแบ่งปันคุณค่าจากการเติบโตไปด้วยกัน กับก้าวที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายของการเป็น Stable and Sustainable ASEAN Leader ภายใต้ PASSION 2025 อันจะสะท้อนถึง ความมุ่งมั่น ตั้งใจและทุ่มเทของทุกคนในกลุ่มไทยเบฟ" คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวทิ้งท้าย


1 ความคิดเห็น:

  1. ความสนใจ:
    คุณกำลังมองหา บริษัท สินเชื่อทางการเงินที่แท้จริงเพื่อให้คุณกู้ยืมระหว่าง 5,000 ยูโรถึง 50,000,000 ยูโร (สำหรับสินเชื่อธุรกิจหรือ บริษัท สินเชื่อส่วนบุคคลสินเชื่อบ้านสินเชื่อรถยนต์สินเชื่อรวมหนี้เงินร่วมทุนสินเชื่อเพื่อการดูแลสุขภาพ ฯลฯ )
    หรือคุณเคยถูกปฏิเสธการกู้ยืมเงินจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งหรือไม่?
    สมัครตอนนี้และรับเงินกู้ทางการเงินจริงที่ดำเนินการและอนุมัติภายใน 3 วัน
    LYDIA MOON CO-OPERATIVE LOAN COMPANY เราคือ "ผู้ให้กู้สินเชื่อที่ได้รับการรับรองในระดับสากล" ที่ให้เงินกู้ทางการเงินจริงแก่บุคคลและ บริษัท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% พร้อมบัตรประจำตัวที่ถูกต้องหรือหนังสือเดินทางระหว่างประเทศของประเทศของคุณเพื่อการตรวจสอบ
    การชำระคืนเงินกู้ของเราเริ่มต้น 1 (หนึ่ง) ปีหลังจากที่คุณได้รับเงินกู้และระยะเวลาการชำระคืนอยู่ระหว่าง 3 ถึง 50 ปี

    สำหรับการตอบสนองทันทีและการดำเนินการตามคำขอเงินกู้ของคุณภายใน 2 วันทำการ
    ติดต่อเราโดยตรงผ่านอีเมลนี้: lydiamooncooperativeloan@gmail.com


    ติดต่อเราด้วยข้อมูลต่อไปนี้:

    ชื่อเต็ม:____________________________
    จำนวนเงินที่ต้องการเป็นเงินกู้: ________________
    ระยะเวลากู้: _________________________
    วัตถุประสงค์ในการกู้ยืม: ______________________
    วันเกิด:___________________________
    เพศ:_______________________________
    สถานภาพการสมรส:__________________________
    ที่อยู่ติดต่อ:_______________________
    เมือง / รหัสไปรษณีย์: __________________________
    ประเทศ:_______________________________
    อาชีพ:____________________________
    โทรศัพท์มือถือ:__________________________

    ส่งคำขอของคุณเพื่อตอบกลับทันทีที่: lydiamooncooperativeloan@gmail.com

    ขอขอบคุณ.
    ลิเดียมูน
    ผู้อำนวยการ.
    LYDIA MOON CO-OPERATIVE LOAN COMPANY
    อีเมล: lydiamooncooperativeloan@gmail.com

    ตอบลบ

Post Top Ad

Responsive Ads Here