"Central See You เสน่ห์กลางใจ" กับเส้นทางแนะนำก่อนไป กิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ” - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

"Central See You เสน่ห์กลางใจ" กับเส้นทางแนะนำก่อนไป กิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ”


"Central See You เสน่ห์กลางใจ" การเดินทางด้วยกระแสนิยมแห่งเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่เน้นออกเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบแคมป์ปิ้ง เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นการท่องเที่ยวมิติใหม่ 


 ได้มีการจัดกิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ” ระหว่างวันที่ 24- 26 มิถุนายน ณ แก่งลานรัก สระบุรี ในงานมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมเด็ด 17 จังหวัดภาคกลาง, กิจกรรมสาธิตใช้ชีวิตแคมป์ปิ้ง, ร้านค้าชุมชน อาหารและเครื่องดื่ม เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์โควิด-19


เส้นทางแนะนำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ออกเดินทางสัมผัสธรรมชาติที่งดงามและได้ทำกิจกรรมต่างๆ ก่อนอื่นเราไปอิ่มท้องกันที่ "Cafe Laura Bar and Restaurant สาขาที่2" เป็นคาเฟ่และร้านอาหารที่ตกแต่งในสไตล์คล้ายกับโคลิเซียม แลนด์มาร์คของกรุงโรมประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลหินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ภายในร้านมีโซนที่นั่งให้เลือกถึง 3 ชั้น ทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ มีมุมเช็คอินและเก็บภาพบรรยากาศเต็มพื้นที่ อาหารมีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่งและอาหารฟิวชั่น มีครบทั้งคาว หวานและเครื่องดื่ม ร้านเปิด 10.00 - 20.30 น. แต่ช่วงเวลาแนะนำคือช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกดินหรือพลบค่ำ อิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารพร้อมทั้งดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาตินอนนับดาวบนท้องฟ้า


ไปต่อกันที่ “อุโมงค์รถไฟ เขาพระพุทธฉาย สระบุรี” จุดที่ไปจะเป็นอุโมงค์ฝั่งเหนือ สามารถจอดรถไว้ได้ที่สถานีรถไฟบุใหญ่และเดินเท้าจากสถานีมายังปากอุโมงค์ ปากอุโมงค์จะมีที่เก็บภาพสุดชิคได้อารมณ์และความรู้สึกของนักเดินทางที่ค้นหาตัวตนได้เป็นอย่างดี แนะนำเพิ่มเติมให้สอบถามเจ้าหน้าที่นายสถานีรถไฟบุใหญ่ในเรื่องตารางเวลาการเดินรถในช่วงที่จะไปถ่ายรูป เพื่อป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากรถไฟ เส้นทางรถไฟที่ผ่านอุโมงค์สายนี้จะเป็นระบบขนส่งทั้งหมด ไม่มีแบบตู้โดยสาร


ปิดท้ายการเดินทางวันแรกด้วยการหาที่พัก ต้องที่นี่ “Country Cafe” เป็นร้านอาหารพร้อมที่พักในรูปแบบพื้นเมือง มีให้เลือกนอนทั้งที่เป็นเต็นท์เล็ก, เต็นท์ใหญ่ และห้องพักแบบเรือนไทย บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ มีอาหารให้เลือกทานกันทั้งอาหารไทย  อาหารยุโรป  และอาหารพื้นเมือง ด้านหลังเป็นแก่งมีลำน้ำไหลผ่าน ที่สุดชิคไปกว่านั้นคือเหมาะมากๆที่จะเป็นที่พักสำหรับค่ำคืนของกิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ” เนื่องจากสามารถเดินออกจากด้านหลังที่พักข้ามแก่งไปร่วมงานที่จัดตรงบริเวณแก่งลานรักได้เลย


เริ่มต้นวันที่ 2 เอาใจสายมูและสายบุญกันบ้าง มุ่งตรงสู่ "วัดถ้ำกระบอก" อ.พระพุทธบาท สักการะพระพุทธรูปหินลาวา จุดอันซีนหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่หล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นมาจากการผสมผสานของแร่หินภูเขาหลอมรวมกับแร่เหล็ก ดูวิธีการผลิตยาสมุนไพรพื้นบ้าน ฟังธรรมเทศนาจากหลวงพ่อบุญส่ง ฐานจาโร ผ่านมากว่า 65 ปี ในปัจจุบันวัดถ้ำกระบอกยังคงเป็นจุดที่ผู้ติดยาเสพติดยังคงเข้ามารับการรักษาแบบพื้นบ้าน


จากนั้นไปต่อ "วัลลภาฟาร์มสเตย์" อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่นี่จุดเด่นอยู่การเรียนรู้เกษตรวิถีใหม่มีทั้งเก็บไข่ ขี่ม้า ขี่ควาย รวมทั้งทำเวิคชอปปั้นดินและทำไข่เค็ม ในพื้นที่ของวัลลภาฟาร์มสเตย์นอกจากมีกิจกรรมเวิคชอปให้เรียนรู้ยังมีร้านอาหารและบ้านพักบริการ เมนูแนะนำ ปลาทับทิมนึงมะนาว กุ้ง หมึกทอดกระเทียม และชุดน้ำพริกปลาช่อนนา รับรองว่าสดทุกเมนู


อิ่มท้องและสนุกสนานกับการเรียนรู้เกษตรวิถีใหม่แล้ว ก็มุ่งตรงสู่ "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" ที่ อ.พัฒนานิคม นอกจากการชิลๆรับลมโดยการนั่งรถลางชมบรรยากาศตรงสันเขื่อน เรียนรู้วิถีชิวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านรอบเขื่อน ยังมีความตื่นตาตื่นใจจากการลงเรือไปชมสะพานผุดหรือสะพานลอยน้ำ จุดอันซีนประจำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์


ไปวัด เรียนรู้วิถีเกษตร ล่องเขื่อน ลงน้ำแล้วปิดท้ายของวันกันที่ขึ้นเขาเช็คอิน ดูพระอาทิตย์ตกดินที่ "เขาพระยาเดินธง" จุดเด่นอยู่ที่วิวพระอาทิตย์ขึ้นและลงแถมมีทะเลหมอกให้ชมใกล้กรุงเพราะอยู่แค่จ.ลพบุรีนี่เอง ที่เขาพระยาเดินธง มีจุดชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แบบพาโนรามา สามารถขับรถขึ้นไปได้


วันสุดท้ายเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ "อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา" เดินชมศิลปกรรมและโบราณสถานเมื่อครั้งที่กรุงศรีอยุธยาเคยรุ่งเรืองในอดีต มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างมากมายทั้งพระราชวัง ศาสนสถาน มหาวิหารต่างๆ เช่น วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ พระราชวังโบราณและพระราชวังหลวง


จากนั้นไปอิ่มท้องกันต่อที่ "ร้านเรือนไทยกุ้งเผา" วัดเชิงเลน ร้านอาหารไทยที่ทุกท่านไม่ควรพลาด เมนูแนะนำ
ห่อหมกปลาช่อน แกงส้มปลากะพง ก้ามปูอบวุ้นเส้น ที่ขาดไม่ได้คือกุ้งเผาที่ใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ทุกๆเมนูทั้งสด ทั้งอร่อย ถูกปาก แถมราคาไม่แพงจนเกินไป 


ปิดท้ายทริปกันที่ปทุมธานีกันที่นี่เลย
"ทุ่งนามอญ บ้านบ่อทอง" เรียนรู้วิถีชีวิตชาวมอญ ชมสาธิตการทำพวงมะหวด ห่มโอ่งและชิมข้าวแช่เมืองมอญ สำหรับกรรมวิธีการทำข้าวแช่ จะต้องทำนอกเรือนเพราะความเชื่อชาวมอญ ข้าวแช่เมืองมอญหลังจากทำเสร็จแล้วต้องนำไปบูชาพระพรหม เจ้าที่ ผีเรือนและบรรพบุรุษ


โครงการ "Central See You เสน่ห์กลางใจ" ส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคกลาง เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กระตุ้นอัตราการจ้างงาน เพิ่มการพักค้าง และสร้างรายได้หมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ นำสู่การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาเดินหน้าอย่างเต็มกำลังอีกครั้ง สามารถติดตามข้อมูลโครงการได้ทาง Facebook : Bliss Camp : เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ https://www.facebook.com/Central.See.You และสามารถรับชมคลิปวิดิโอท่องเที่ยวภาคกลาง 17 จังหวัด ได้ที่: YouTube : Connive Channel https://bit.ly/3z33ni1

#ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง #AmazingThailand #TrendyC2 #CreateNewExperience #CharmingOfCentral

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here