"Central See You เสน่ห์กลางใจ" การเดินทางด้วยกระแสนิยมแห่งเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ที่เน้นออกเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบแคมป์ปิ้ง เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นการท่องเที่ยวมิติใหม่
ได้มีการจัดกิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ” ระหว่างวันที่ 24- 26 มิถุนายน ณ แก่งลานรัก สระบุรี ในงานมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมเด็ด 17 จังหวัดภาคกลาง, กิจกรรมสาธิตใช้ชีวิตแคมป์ปิ้ง, ร้านค้าชุมชน อาหารและเครื่องดื่ม เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์โควิด-19
เส้นทางแนะนำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ออกเดินทางสัมผัสธรรมชาติที่งดงามและได้ทำกิจกรรมต่างๆ ก่อนอื่นเราไปอิ่มท้องกันที่ "Cafe Laura Bar and Restaurant สาขาที่2" เป็นคาเฟ่และร้านอาหารที่ตกแต่งในสไตล์คล้ายกับโคลิเซียม แลนด์มาร์คของกรุงโรมประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลหินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ภายในร้านมีโซนที่นั่งให้เลือกถึง 3 ชั้น ทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ มีมุมเช็คอินและเก็บภาพบรรยากาศเต็มพื้นที่ อาหารมีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่งและอาหารฟิวชั่น มีครบทั้งคาว หวานและเครื่องดื่ม ร้านเปิด 10.00 - 20.30 น. แต่ช่วงเวลาแนะนำคือช่วงใกล้พระอาทิตย์ตกดินหรือพลบค่ำ อิ่มอร่อยกับรสชาติอาหารพร้อมทั้งดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาตินอนนับดาวบนท้องฟ้า
ไปต่อกันที่ “อุโมงค์รถไฟ เขาพระพุทธฉาย สระบุรี” จุดที่ไปจะเป็นอุโมงค์ฝั่งเหนือ สามารถจอดรถไว้ได้ที่สถานีรถไฟบุใหญ่และเดินเท้าจากสถานีมายังปากอุโมงค์ ปากอุโมงค์จะมีที่เก็บภาพสุดชิคได้อารมณ์และความรู้สึกของนักเดินทางที่ค้นหาตัวตนได้เป็นอย่างดี แนะนำเพิ่มเติมให้สอบถามเจ้าหน้าที่นายสถานีรถไฟบุใหญ่ในเรื่องตารางเวลาการเดินรถในช่วงที่จะไปถ่ายรูป เพื่อป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากรถไฟ เส้นทางรถไฟที่ผ่านอุโมงค์สายนี้จะเป็นระบบขนส่งทั้งหมด ไม่มีแบบตู้โดยสาร
ปิดท้ายการเดินทางวันแรกด้วยการหาที่พัก ต้องที่นี่ “Country Cafe” เป็นร้านอาหารพร้อมที่พักในรูปแบบพื้นเมือง มีให้เลือกนอนทั้งที่เป็นเต็นท์เล็ก, เต็นท์ใหญ่ และห้องพักแบบเรือนไทย บรรยากาศธรรมชาติสุดๆ มีอาหารให้เลือกทานกันทั้งอาหารไทย อาหารยุโรป และอาหารพื้นเมือง ด้านหลังเป็นแก่งมีลำน้ำไหลผ่าน ที่สุดชิคไปกว่านั้นคือเหมาะมากๆที่จะเป็นที่พักสำหรับค่ำคืนของกิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ” เนื่องจากสามารถเดินออกจากด้านหลังที่พักข้ามแก่งไปร่วมงานที่จัดตรงบริเวณแก่งลานรักได้เลย
เริ่มต้นวันที่ 2 เอาใจสายมูและสายบุญกันบ้าง มุ่งตรงสู่ "วัดถ้ำกระบอก" อ.พระพุทธบาท สักการะพระพุทธรูปหินลาวา จุดอันซีนหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่หล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ขึ้นมาจากการผสมผสานของแร่หินภูเขาหลอมรวมกับแร่เหล็ก ดูวิธีการผลิตยาสมุนไพรพื้นบ้าน ฟังธรรมเทศนาจากหลวงพ่อบุญส่ง ฐานจาโร ผ่านมากว่า 65 ปี ในปัจจุบันวัดถ้ำกระบอกยังคงเป็นจุดที่ผู้ติดยาเสพติดยังคงเข้ามารับการรักษาแบบพื้นบ้าน
จากนั้นไปต่อ "วัลลภาฟาร์มสเตย์" อ.เมือง จ.ลพบุรี ที่นี่จุดเด่นอยู่การเรียนรู้เกษตรวิถีใหม่มีทั้งเก็บไข่ ขี่ม้า ขี่ควาย รวมทั้งทำเวิคชอปปั้นดินและทำไข่เค็ม ในพื้นที่ของวัลลภาฟาร์มสเตย์นอกจากมีกิจกรรมเวิคชอปให้เรียนรู้ยังมีร้านอาหารและบ้านพักบริการ เมนูแนะนำ ปลาทับทิมนึงมะนาว กุ้ง หมึกทอดกระเทียม และชุดน้ำพริกปลาช่อนนา รับรองว่าสดทุกเมนู
อิ่มท้องและสนุกสนานกับการเรียนรู้เกษตรวิถีใหม่แล้ว ก็มุ่งตรงสู่ "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" ที่ อ.พัฒนานิคม นอกจากการชิลๆรับลมโดยการนั่งรถลางชมบรรยากาศตรงสันเขื่อน เรียนรู้วิถีชิวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านรอบเขื่อน ยังมีความตื่นตาตื่นใจจากการลงเรือไปชมสะพานผุดหรือสะพานลอยน้ำ จุดอันซีนประจำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ไปวัด เรียนรู้วิถีเกษตร ล่องเขื่อน ลงน้ำแล้วปิดท้ายของวันกันที่ขึ้นเขาเช็คอิน ดูพระอาทิตย์ตกดินที่ "เขาพระยาเดินธง" จุดเด่นอยู่ที่วิวพระอาทิตย์ขึ้นและลงแถมมีทะเลหมอกให้ชมใกล้กรุงเพราะอยู่แค่จ.ลพบุรีนี่เอง ที่เขาพระยาเดินธง มีจุดชมวิวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แบบพาโนรามา สามารถขับรถขึ้นไปได้
วันสุดท้ายเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ "อุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา" เดินชมศิลปกรรมและโบราณสถานเมื่อครั้งที่กรุงศรีอยุธยาเคยรุ่งเรืองในอดีต มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างมากมายทั้งพระราชวัง ศาสนสถาน มหาวิหารต่างๆ เช่น วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ พระราชวังโบราณและพระราชวังหลวง
จากนั้นไปอิ่มท้องกันต่อที่ "ร้านเรือนไทยกุ้งเผา" วัดเชิงเลน ร้านอาหารไทยที่ทุกท่านไม่ควรพลาด เมนูแนะนำห่อหมกปลาช่อน แกงส้มปลากะพง ก้ามปูอบวุ้นเส้น ที่ขาดไม่ได้คือกุ้งเผาที่ใช้กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ทุกๆเมนูทั้งสด ทั้งอร่อย ถูกปาก แถมราคาไม่แพงจนเกินไป
ปิดท้ายทริปกันที่ปทุมธานีกันที่นี่เลย "ทุ่งนามอญ บ้านบ่อทอง" เรียนรู้วิถีชีวิตชาวมอญ ชมสาธิตการทำพวงมะหวด ห่มโอ่งและชิมข้าวแช่เมืองมอญ สำหรับกรรมวิธีการทำข้าวแช่ จะต้องทำนอกเรือนเพราะความเชื่อชาวมอญ ข้าวแช่เมืองมอญหลังจากทำเสร็จแล้วต้องนำไปบูชาพระพรหม เจ้าที่ ผีเรือนและบรรพบุรุษ
โครงการ "Central See You เสน่ห์กลางใจ" ส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคกลาง เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กระตุ้นอัตราการจ้างงาน เพิ่มการพักค้าง และสร้างรายได้หมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ นำสู่การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาเดินหน้าอย่างเต็มกำลังอีกครั้ง สามารถติดตามข้อมูลโครงการได้ทาง Facebook : Bliss Camp : เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ https://www.facebook.com/Central.See.You และสามารถรับชมคลิปวิดิโอท่องเที่ยวภาคกลาง 17 จังหวัด ได้ที่: YouTube : Connive Channel https://bit.ly/3z33ni1
#ททท #การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง #AmazingThailand #TrendyC2 #CreateNewExperience #CharmingOfCentral
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น