****สร้างแต้มต่อ”เอสเอ็มอี-ไมโครเอสเอ็มอีไทย” โกอินเตอร์ คาดสร้างเงินทะลุ 1,400 ลบ. 22-26 มี.ค.นี้ ที่ศูนย์ฯสิริกิติ์****
วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 11.30 น.; นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2023 ที่สุดของงานแฟร์ที่รวมสินค้าไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรจากผู้แสดงสินค้าและผู้ประกอบการรุ่นใหม่กว่า 500 บริษัท 1,000 คูหา พร้อมด้วย นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆประจำประเทศไทย และผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน สภาและสมาคมไทย ที่ Hall 1 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ภายในงาน นายจุรินทร์ กล่าวว่า งาน STYLE Bangkok จัดขึ้นเป็นปีที่ 6 หลังจากลดขนาดเป็นงานขนาดเล็กมา 3 ปีต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์โควิด งานวันนี้จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจับมือร่วมกัน สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ เพราะประการที่หนึ่ง อุตสาหกรรมนี้มีเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี เกินกว่า 90% ประการที่สอง เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากกว่า 1,000,000 คน ประการที่สาม อุตสาหกรรมที่สามารถสร้างเงินให้ประเทศไทยมหาศาล การส่งออกปี 2565 สร้างเงินให้ประเทศถึง 450,000 ล้านบาท ขยายตัว 16.5% เดือน ม.ค. ปี 66 สร้างเงินให้ประเทศแล้ว 30,000 ล้านบาท ตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย จีนเวียดนาม อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศประการที่สี่ สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นไทยถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก มีจุดเด่นการออกแบบอัตลักษณ์ของความเป็นไทย เป็นซอร์ฟพาวเวอร์ร่วมสมัย มีศักยภาพทำเงินให้ประเทศไทยมหาศาลในอนาคต ตั้งเป้าให้ไทยเป็นฮับในภูมิภาค ด้านสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นต่อไปในอนาคต
“งานแสดงสินค้า STYLE Bangkok 2023 มีหลายกิจกรรม จัดงานแสดงสินค้ามีผู้ประกอบการร่วม 1,000 คูหา สร้างเวทีสำคัญให้มีการเจรจากันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ คาดว่างานนี้งานเดียวสร้างเงินให้ประเทศไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท และจะเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทั้งด้านการผลิต การตลาดและการออกแบบ แลกเปลี่ยนอัตลักษณ์ระหว่างประเทศของผู้นำเข้าและผู้ส่งออกไทยให้สอดคล้องกับรสนิยมตลาด คงอัตลักษณ์ ความเป็นไทยไว้ และที่สำคัญงานนี้จะเป็นการสร้างแต้มต่อให้เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีไทย มีโอกาสโกอินเตอร์ต่อไปอนาคต” นายจุรินทร์กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น