กรุงเทพฯ ประเทศไทย - บริษัท นำเชา ประเทศไทย ผู้นำตลาดและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากข้าว รวมถึงขนมคบเขี้ยว ขนมข้าวอบกรอบชั้นนำของโลก ประกาศเดินหน้าสู่ยุคใหม่ พลิกกลยุทธ์แบรนด์เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ เพื่อตอบรับเทรนด์การบริโภคทั้งในตลาดไทยและทั่วโลก ชูความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากข้าว ความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้า ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัย รวมถึงเตรียมเปิดไลน์ใหม่ “ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค” ตอบรับเทรนด์คนยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพในไตรมาส 3 นี้ พร้อมตั้งเป้ายอดขายปี 2567 4,000 ล้านบาท ตอกย้ำแชมป์อันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง
นายเฮนรี่ เจี๋ย (Mr. Henry Chia) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นำเชา ประเทศไทย เผยว่า หลังจากดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 33 ปี บริษัท นำเชา ประเทศไทย ได้สร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันธุรกิจ “ขนมขบเคี้ยว” ของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย จัดอยู่ในตลาดขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว (Rice Cracker) มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 12% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบชาม ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดที่ 30% โดยเติบโตขึ้นจากปี 2566 ที่ผ่านมามากกว่า 10% และยังคงรักษาเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 นี้
จากความสำเร็จดังกล่าว นับเป็นผลมาจากการที่บริษัท นำเชา ประเทศไทย ได้สืบทอดโมเดลทางธุรกิจที่สำคัญของกลุ่มบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาสินค้าเพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก และไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด รวมถึงการนำเสนอสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ การรักษาความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าอย่างยาวนาน และการเพิ่มประสิทธิภาพของต้นทุนสินค้าที่ยั่งยืน
“ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันไปสู่ความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่อง คือเราได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานระดับโลก ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยที่มีคุณภาพสูง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่จะทำให้ธุรกิจของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย มีการเติบโตแบบยั่งยืน บนความมุ่งมั่นในการสร้างความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งในการพัฒนาเพื่อการต่อยอดผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม ผ่านการเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สิ่งนี้ทำให้สามารถยืนหยัดภายในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งจากนานาประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย เรายังคงมีการพัฒนาระดับมาตรฐานคุณภาพได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งด้านคุณภาพ รสชาติ และบริการ ในระดับโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นความพยายามที่เราจะนำพา บริษัท นำเชา ประเทศไทย ไปสู่พันธกิจ “ผู้นำตลาดและผู้ผลิตขนมข้าวอบกรอบชั้นนำของโลก” นั่นเอง” นายเฮนรี่กล่าว
ทั้งนี้ บริษัท นำเชา ประเทศไทย ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกขึ้นในประเทศไทยในปี 1991 (บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี) โดยเป็นบริษัทแรกที่ทางกลุ่ม บริษัท นำเชา ประเทศไต้หวัน ได้เล็งเห็นโอกาสการทำธุรกิจและเข้ามาลงทุน โดยเริ่มจากการผลิตกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยวจากข้าวอบกรอบ ข้าวพร้อมทาน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปสู่ตลาดกลุ่มประเทศออสเตรเลีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก กว่า 70 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้บริษัท นำเชา ประเทศไทย เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของประเทศไทยในด้านการส่งออกสินค้าไปยังนานาประเทศทั่วโลก ทำให้บริษัทมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมีขยายโรงงานและคลังสินค้าในปี 2020 พร้อมเพิ่มการลงทุนด้วยงบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทนำเชา ประเทศไทยยังได้รับรางวัลในระดับโลก รวมถึงได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐาน ISO9001, ISO14001, HACCP, GMP, BRC, IFS และ Kosher and Halal ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับจากลูกค้าทั่วโลก นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านเป้าหมายในการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกตามนโยบายของภาครัฐ และปฏิบัติตามมาตรฐานระดับโลกที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจมีการเติบโตแบบยั่งยืนอีกด้วย
ผลิตภัณฑ์จากข้าวของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย มีความหลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มบริโภค ประกอบด้วย
- ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว (Rice Snack and Rice Cracker) ภายใต้แบรนด์ ชินมัย (Shinmai) และ บินบิน (Bin Bin)
- ขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กที่ทำจากข้าว (Baby Rice Cracker and Snack) ภายใต้แบรนด์ แฮปปี้ ไบท์ (Happy Bites)
- ข้าวพร้อมทาน (Cook Rice) ภายใต้แบรนด์ นำเชา (Namchow)
- โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป (Instant Rice Porridge) ภายใต้แบรนด์ ซุปเปอร์ไบท์ (Super Bites)
- ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodle) ภายใต้แบรนด์ ลิตเติ้ลกุ๊ก (Little Cook) และ ลิตเติ้ลกุ๊ก เชฟ (Little Cook Chef)
- ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศส ภายใต้แบรนด์ ปากุแปง (Pakupang)
สำหรับ “บทใหม่ของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย” จะเดินตามเกมแผนการตลาดและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ที่จะพลิกบริษัทนำเชาให้แข็งแกร่งในทุกมิติ โดยเป็นการผสานจุดแข็งที่มีเข้ากับการปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ผู้บริโภคในอนาคต โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งคู่ค้าที่เป็นพันธมิตรกันมาเป็นระยะเวลานาน และคู่ค้าใหม่ที่ให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจในบริษัท รวมถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในระยะยาว เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในทุกเซ็กเมนต์ โดยเน้นการออกผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม การตามเทรนด์การตลาดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค อาทิ ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และยังตั้งเป้าที่จะขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ในช่องทางที่เหมาะสม อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าเพื่อสุขภาพ และช่องทางออนไลน์ รวมทั้งได้วางแผนในการขยายเข้าสู่ช่องทางที่กว้างมากขึ้น อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าในต่างจังหวัด และร้านขายของชำ เป็นต้น รวมทั้งการวางกลยุทธ์ในการกระจายสินค้าใหม่เข้าสู่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยใช้ฐานลูกค้าขนาดใหญ่ที่มีอยู่ครอบคลุมทุกทวีปเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย
ในไตรมาส 3 ของปี 2567 นี้ บริษัท นำเชา ประเทศไทย ยังเตรียมเปิดตัว “ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค” (Super Bites Smart Snack) ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมสโลแกน “สมาร์ทสแน็ค...สมาร์ทช้อยท์” ซึ่งเป็นขนมข้าวหอมมะลิกรุบกรอบ ที่ชูจุดเด่นทั้งความอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการในทุกคำ ผลิตจาก อิดามาเมะ (ถั่วแระญี่ปุ่น) เกรดพรีเมี่ยมและสตรอเบอร์รี่ ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนและไฟเบอร์ชั้นดี ใช้การอบแทนการทอด ไม่มีโคเลสเตอรอล ไม่มีสารกันบูด ปราศจากกลูเตน และดีต่อสุขภาพ มีให้เลือก 2 รสชาติ ได้แก่ รสสปาเก็ตตี้นโปลิตัน และรสครีมทรัฟเฟิล เป็นขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ไลน์ใหม่ของบริษัทนำเชานั้น จะจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ชอบลองสิ่งใหม่ ๆ ที่แตกต่าง เน้นความอร่อยแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทานแล้วไม่รู้สึกผิด เน้นเพศหญิงสายสุขภาพ รักออกกำลังกาย แต่ยังชอบรับประทานขนม ที่ทานง่ายและสะดวกสบายในทุกที่ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อม ๆ ไปกับสร้างการรับรู้แบรนด์และข้อมูลสินค้า ด้วยการโปรโมทช่องทางโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Content, Facebook page และ KOL ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงสร้างการทดลองชิมสินค้า ณ จุดขาย
เป้าหมายของการออกผลิตภัณฑ์ ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค นั้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกในการบริโภคขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ พร้อม ๆ กับมีความสนุกในการรับประทานขนมที่มีความอร่อย แบบไม่ต้องเป็นกังวล และเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ในการรับประทานขนมขบเคี้ยวในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิตประจำวันกับตัวเองหรือคนที่รัก
นายเฮนรี่ เจี๋ย กล่าวปิดท้ายว่า “ถ้าดูจากแนวโน้มตลาดขนมขบเคี้ยวทั้งในไทยและต่างประเทศ ผู้บริโภคจะหันมาสนใจขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงต้องการขนมขบเคี้ยวที่มีรสชาติอร่อย ทานแล้วไม่รู้สึกเบื่อ ทานได้เรื่อย ๆ ในชีวิตประจำวันที่เร่งรีบ ซึ่งผู้บริโภคจะมองหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสะดวกสบายและทานง่ายได้ทุกที่ การคิดค้นและพัฒนาสินค้าเชิงนวัตกรรมของเราในครั้งนี้ นับเป็นการตอบโจทย์ตลาดในยุคปัจจุบันและอนาคต ด้วยส่วนผสมหรือสารสกัดจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ แหล่งโปรตีนสูงจาก อิดามาเมะ (ถั่วแระญี่ปุ่น) เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้การอบแทนการทอด ทำให้ได้ขนมที่ปราศจากคลอเลสเตอรอล ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่มีไขมันชนิดอิ่มตัวที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปราศจากกลูเตน นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เราเชื่อมั่นว่า ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค (สมาร์ทสแน็ค...สมาร์ทช้อยท์ ของผู้รักการทานขนม) จะครองใจผู้บริโภคอย่างแน่นอน”
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท นำเชา ประเทศไทย ได้ที่ www.namchow.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น