รายงานสถานการณ์ประชากรของประเทศไทย ปี 2567 “เด็กเกิดน้อยและสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” - Siamtimes.net

Breaking

  

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2568

รายงานสถานการณ์ประชากรของประเทศไทย ปี 2567 “เด็กเกิดน้อยและสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์”

Responsive Ads Here
anigif

“ปี 2567 จำนวนเด็กไทยเกิดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ต่ำกว่า 5 แสนคนต่อปี ส่งผลให้จำนวนประชากรไทยลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4” สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล โอกาสของไทยในความท้าทาย “เด็กเกิดน้อยและสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” การเกิดที่น้อยลงกับอัตราเพิ่มธรรมชาติติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 4


2507839_0

สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เผยแพร่ข้อมูลปี 2567 พบว่า
ประชากรในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 65,951,210 คน มีเด็กเกิดใหม่เพียง 462,240 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 571,646 คน ส่งผลให้อัตราเพิ่มตามธรรมชาติอยู่ที่ -0.17% ติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 อัตราเจริญพันธุ์รวม (Total Fertility Rate - TFR) ซึ่งหมายถึงจำนวนลูกเฉลี่ยที่ผู้หญิงไทยคนหนึ่งจะมีตลอดช่วงวัยเจริญพันธุ์ ในปี 2567 อยู่ที่ 1.0 ซึ่งต่ำกว่าระดับทดแทนประชากรที่ 2.1 และใกล้เคียงกับประเทศที่เผชิญสถานการณ์การเกิดที่ต่ำมาก เช่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ก้าวสู่ “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” แล้ว โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกิน 20% ของประชากรทั้งหมด

2507826_0

TFR ที่ต่ำกับความ (ไม่) คาดหวังในการเพิ่มการเกิด 
เมื่ออัตราเจริญพันธุ์รวม (TFR) ต่ำกว่า 1.5 ประสบการณ์จากหลายประเทศ พบว่าการกระตุ้นการเกิดนั้นเป็นไปได้ยาก อีกทั้งแนวโน้ม TFR ในเจนเนอเรชันถัดไปอาจลดลงไปอีก แม้กระนั้น รัฐบาลก็ยังจำเป็นต้องดำเนินมาตรการสนับสนุนในเรื่องนี้เพื่อชะลอการเข้าสู่สังคมสูงวัย ให้ประเทศมีเวลาในการเตรียมความพร้อมด้านสวัสดิการ ปรับสภาพแวดล้อมเพื่อการอยู่ร่วมกันของประชากรทุกช่วงวัย

367143

โอกาสและทางเลือกของประเทศไทย

   (1) “ผู้สูงอายุ” และ “ผู้หญิง” จะเป็นกุญแจสำคัญ - ต้องสนับสนุนบทบาทและโอกาสในการมีส่วนร่วมทางสังคมและในกำลังแรงงานให้เพิ่มขึ้น ปรับปรุงเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมในการทำงานเพื่อเอื้อให้เป็นพลัง (contributor) ไม่ใช่ผู้พึ่งพิง (dependent)
   (2) “เด็ก” คือ ทรัพยากรล้ำค่า การลงทุนในเด็กต้องเพิ่มขึ้น ทั้งด้านการศึกษา สุขภาพ และสวัสดิการต่าง ๆ ลดความเครียดทางเศรษฐกิจของครอบครัว สนับสนุนสวัสดิการในสถานที่ทำงานเพื่อช่วยให้พ่อแม่มีเวลาและความพร้อมในการเลี้ยงดูบุตร ส่งเสริมการเกิดในเชิงคุณภาพและให้คุณค่าแก่บทบาทของพ่อแม่ในสังคม
   (3) การย้ายถิ่นทดแทนหรือการนำเข้าแรงงาน (Replacement migration) หรือ การทดแทนแรงงานไทยที่จะลดลงด้วยกลุ่มประชากรข้ามชาติ โดยเฉพาะ การดึงดูดแรงงานข้ามชาติที่มีทักษะ เด็กข้ามชาติที่เกิดและเติบโตในไทย เป็นอีกทางเลือกเชิงนโยบายและโอกาสที่ต้องพิจารณาเพื่อเร่งให้เกิดการกำหนดมาตรการ แนวทางและกลไกที่ชัดเจนในการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติกลุ่มต่างๆ อย่างเป็นระบบ
   (4) เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกหนึ่งกุญแจของโอกาสเพื่อทดแทนประชากรที่ลดลงในด้านปริมาณ ด้วยคุณภาพและผลิตภาพแรงงานที่สูงขึ้นของประชากรในทุกช่วงวัย รวมถึงเด็กเจนเนอเรชันเบต้า (เกิดปี 2568 เป็นต้นไป) ที่เกิดมาพร้อมการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของ AI ในทุกมิติทางสังคมและวิถีชีวิต
   (5) พลิกวิกฤตเกิดน้อย เป็นโอกาสต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะ SDGs ด้านความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและสภาพความเป็นอยู่ “สิ่งสำคัญ คือ การปรับตัวและเตรียมรับมือในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน”

2507840_0
2507825_0

มุมมองของสังคมต่อสถานการณ์และทิศทางนโยบาย
 ผลสำรวจจากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม - 20 ธันวาคม 2567 ในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นประชาชนไทย อายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,042 คน พบว่า 71% มองว่าปัญหาเด็กเกิดน้อยเป็นวิกฤตของประเทศ แต่มีเพียง 44% เท่านั้น ที่สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการเกิด โดยผู้หญิง (42%) เห็นด้วยน้อยกว่าผู้ชาย (52%) ทั้งนี้ 66% สนับสนุนการปรับนิยามผู้สูงอายุจาก 60 ปีเป็น 65 ปี และ 64% เห็นด้วยกับการขยายอายุเกษียณเป็น 65 ปี ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า สังคมไทยพร้อมปรับตัวรับการเป็นสังคมสูงวัย แต่การเพิ่มจำนวนเด็กเกิดตามเป้าหมายยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องเร่งผลักดันนโยบายเพื่อรับมือกับสถานการณ์สังคมสูงวัยที่อัตราจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก อันเนื่องจากสึนามิประชากรรุ่นเกิดเกิน 1 ล้านคนต่อปี (ประชากรที่เกิดในช่วงปี 2506-2526) และเตรียมพร้อมระบบสวัสดิการให้ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย

page

หนึ่งในนโยบายสังคมด้านสุขภาพที่สำคัญ คือ "พินัยกรรมชีวิต" (e-Living Will)
ซึ่งเป็นสิทธิสำคัญที่ช่วยให้บุคคล โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุสามารถแสดงเจตนารมณ์ไม่รับการรักษาที่ยืดชีวิตในภาวะไร้คุณภาพ โดยได้รับการคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 มาตรา 12 การส่งเสริมความรู้เรื่องนี้ช่วยให้ผู้สูงอายุวางแผนการรักษาตามความต้องการ ลดความขัดแย้งในครอบครัว และรักษาศักดิ์ศรีชีวิตในช่วงท้ายได้อย่างสง่างาม

2507829_0

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad