สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และนานาชาติ” ใหญ่สุดในอาเซียน! ในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” มีหนังสือดี โดนใจ ให้เลือกช้อปกว่า 2 ล้านเล่ม - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2568

สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และนานาชาติ” ใหญ่สุดในอาเซียน! ในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” มีหนังสือดี โดนใจ ให้เลือกช้อปกว่า 2 ล้านเล่ม


อลังการ! สมการรอคอย กับ “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23” ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” งานหนังสือครั้งใหม่ ใหญ่กว่าเดิม พบกับ 7 โซนหนังสือดีที่น่าอ่าน ทั้งไทย และต่างประเทศ ให้เลือกช้อปจุใจมากมายกว่า 2 ล้านเล่ม กับ 1,200 บูธ จาก 400 สำนักพิมพ์ พร้อมขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 20,000 ตร.ม. จัดเต็มนิทรรศการ – กิจกรรมกว่า 100 อีเว้นท์



โดยภายในงานแถลงข่าว ได้รับความสนใจจากบุคคลมีชื่อเสียง มาร่วมสร้างสีสัน ทั้งในวงการบันเทิง อาทิ เก่ง-ธชย ประทุมวรรณ, ซิน-ทศพร อาชวานันทกุล, เมฆ-จิรกิติ์ ถาวรวงศ์ และลีซอ-ธีรเทพ วิโนทัย มาเผยหนังสือเล่มโปรดของตัวเอง พร้อมกับเชิญชวนทุกท่านร่วมงานในครั้งนี้ เพราะหนังสือมีความสำคัญ และเต็มไปด้วยเสน่ห์มากมาย โดยมีนายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เป็นประธานในงาน ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีม “ย ยักษ์ อ่านใหญ่” ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


นายสุวิช รุ่งวัฒนไพบูลย์ นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า
งานปีนี้มีความพิเศษสุดคือ การขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 3 ฮอลล์ เพิ่มเป็น 4 ฮอลล์ ทำให้มีพื้นที่การจัดงานจากเดิม 15,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตร.ม. เพื่อรองรับนักอ่านที่มาร่วมงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รวมทั้งผู้ประกอบการสำนักพิมพ์ และบริษัทต่างๆทั้งไทยและต่างประเทศที่ต้องการเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการสุดว้าว และกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเตรียมจัดเต็มมาเอาใจเหล่านักอ่าน 


รวมถึงพิเศษสุด! ในปีนี้เอาใจสายคาเฟ่ “PUBAT Cafe”
ครั้งแรกกับบูธจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟ จากร้านดัง ROWIE’S x PUBAT café มาพร้อมเมนูพิเศษ Exclusive เฉพาะภายในงานนี้เท่านั้น ซึ่งภายในงานปีนี้ยังมีพื้นที่พิเศษ โดยบริษัท อมรินทร์ บุ๊ค เซ็นเตอร์ จำกัด มาเนรมิตพื้นที่ให้นั่งอ่านหนังสือแบบชิล ชิล หลังจากเดินช้อปจนจุใจ และยังมีบริการนวดแผนไทย โดยการสนับสนุนจากกรมการแพทย์แผนไทย รวมทั้งยังมีไปรษณีย์ไทยมาเปิดให้บริการจัดส่งสินค้าให้ในราคาพิเศษอีกด้วย


ภายในงานแบ่งออกเป็น 7 โซน ประกอบด้วย 
   1. โซนหนังสือนิยายและวรรณกรรม
   2.โซนหนังสือการ์ตูนและวัยรุ่น (Book Wonderland) 
   3.หนังสือเด็กและการศึกษา 
   4. หนังสือทั่วไป 
   5. หนังสือเก่า 
   6.โซนหนังสือต่างประเทศ 
   7. โซน Non – Book 
รวมหนังสือมากกว่า 2 ล้านเล่ม จาก 400 สำนักพิมพ์และร้านหนังสือชั้นนำรวม 1,200 บูธ พร้อมพื้นที่พิเศษ PUBAT Creative Zone


นายสุวิช กล่าวอีกว่า
อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์คือ Bangkok Rights Fair 2025 งานจับคู่ธุรกิจเพื่อการซื้อขายลิขสิทธิ์หนังสือนานาชาติ ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 2 โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระหว่างวันที่ 28-29 มีนาคม 2568 ณ ห้อง MR208 ชั้น 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีสำนักพิมพ์และตัวแทนลิขสิทธิ์เข้าร่วมกว่า 115 บริษัท จาก 14 ประเทศและเขตแดน อาทิ สหราชอาณาจักร จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี ไต้หวัน พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย ภายในงานตั้งเป้าหมายที่จะเจรจาการค้า (Business Matching) มากกว่า 200 คู่ คาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์เกิดขึ้นกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 68.5 ล้านบาท


ด้าน “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดเผยว่า 
ส่วนตัวก็ชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำธุรกิจ เพราะต้องการที่ศึกษาจากคำแนะนำวิธีการทำธุรกิจต่างๆ โดยชอบอ่านหนังสือชื่อว่า “มั่งคั่งทั้งชีวิต Money Mastery” ของ พี่พอล-ภัทรพล ศิลปาจารย์ ซึ่งได้สอนเรื่องการเก็บออมเงินในการใช้ชีวิตที่มีประโยชน์ต่อตัวเอง และทุกๆ คน สำหรับหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ชื่นชอบมากคือ หนังสือ “โชคดีที่มึงได้อ่าน” ของ “น้าเน็ก” เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา เพราะส่วนตัวชื่นชมน้าเน็กอยู่แล้ว ที่นำเรื่องราวมาถ่ายทอดผ่านการเขียนหนังสือเพื่อให้ข้อคิดสอนคนได้เข้าใจง่าย และมีภาษาสละสลวย จนทำให้ตนเองรู้สึกทึ่งและชอบหนังสือเล่มนี้มาก

“ลีซอ” ยังได้กล่าวเชิญชวนทุกคนมางานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ว่า แม้ว่าปัจจุบันโซเชียลมีเดียจะเข้าถึงได้ง่าย แต่การอ่านหนังสือยังคงมีความสำคัญและยังคงเสน่ห์ด้วยภาษาของการเขียนหนังสือที่สามารถเปิดโลกของเราได้ ขณะเดียวกันการอ่านหนังสือยังช่วยสร้างสมาธิให้กับเรา ดังนั้นหนังสือจึงเป็นสิ่งที่มีให้ประโยชน์กับผู้อ่านทุกๆ คนได้ จึงอยากเชิญชวนทุกๆ คนให้มาร่วมงานงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้กันเยอะๆ ซึ่งเราจะได้เจอกับหนังสือมากมาย และจะทำให้เราเปิดโลกได้มากยิ่งขึ้น


ห้ามพลาด! งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม - 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา เวลา 10.00-21.00 น. ณ ฮอลล์ 5-8 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านคน มียอดขายกว่า 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5-10% สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ Thai Book Fair

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here