“ที่ปรึกษาอ้อ” ติดตามเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกรุกทำร้าย นทท. กลางเมืองเก่า เน้นย้ำ 4 นโยบาย 4 กวาดล้างอาชญากร-ผู้ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

“ที่ปรึกษาอ้อ” ติดตามเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกรุกทำร้าย นทท. กลางเมืองเก่า เน้นย้ำ 4 นโยบาย 4 กวาดล้างอาชญากร-ผู้ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย


พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษตามนโยบายเร่งด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศนรด.ตร.) เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และติดตามความคืบหน้าเหตุกลุ่มวัยรุ่นบุกรุกทำร้ายนักท่องเที่ยวในสถานบริการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) , พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา , กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมนันทโชติ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา


พล.ต.อ.อัคราเดชฯ กล่าวว่า
ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มาช่วยดูแลและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยวันนี้ได้มาประชุมร่วมกันเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี กรณีวันที่ 18 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.30 น. มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 14 ราย ในคราวแรก และตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 1 ราย รวมเป็น 15 ราย ได้กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย ใช้กำลังเข้าไปทำร้ายและพยายามปล้นทรัพย์ ข่มขู่ กระทำการผิดกฎหมายหลายกระทง ต่างกรรมต่างวาระ... 


...โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนขยายผล รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับทั้งหมดจำนวน 13 หมาย ส่วนอีก 2 รายอยู่ในขั้นตอนที่จะมีการออกหมายเรียก ซึ่งล่าสุดผู้ต้องหาจำนวน 12 ราย ได้เข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ในขั้นตอนต่อไปได้จะนำตัวไปฝากขัง สำหรับการดำเนินคดีถือว่าคืบหน้าไปมาถึง 80% แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังคงต้องมีมาตรการต่อไปในการที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ว่าจะต้องอยู่ดีมีสุข และมีความมั่นใจในความปลอดภัย


นอกจากนี้ พล.ต.อ.อัคราเดชฯ กล่าวว่า สิ่งที่ได้กำหนดแนวทางในที่ประชุม ที่จะต้องดำเนินการต่อไปมี 4 แนวทาง คือ 
   1. เตรียมเปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองไล่ล่า อยุธยาต้องผาสุก” โดยจะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง จะมีการปิดเมืองปิดล้อมตรวจค้น จับกุมตัวมาดำเนินคดี อย่างเต็มกำลังความสามารถ
   2. การรุกเข้าหาเป้าหมายเพื่อทำลายเครือข่ายต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการขยายเครือข่าย หยุดยังไม่ให้มีการเอาเยี่ยงอย่าง


   3. เร่งดำเนินการเรื่องคดีค้างเก่าที่มีหมายจับในคดีสำคัญในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐาน 17 ด้าน ในเรื่องของผู้มีอิทธิพล และความผิดคดีพิเศษ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน


   4. การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปพบปะพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะไปรับฟัง รับรู้ถึงปัญหา สิ่งต่างๆ ที่ประชาชนรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ เพื่อจะได้เก็บข้อมูลข่าวสารต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้เจ้าหน้าที่จะเก็บเป็นความลับ เพื่อจะนำมาขยายผลต่อยอดและวางแผนในการปฏิบัติต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here