กรุงเทพฯ 22 พฤษภาคม 2568 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม” ของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เซฟพี่น้องอุตสาหกรรมไทย สร้างความเท่าเทียม สร้างรายได้ สร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจ โดยการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นผ่านนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย พร้อมผลักดันให้ออกสู่ตลาดสากล พัฒนาองค์ความรู้และเชื่อมโยงอุตสาหกรรมแฟชั่น ผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย”
ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพบุคลากรในหัตถอุตสาหกรรมไทย ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาแบรนด์สินค้า นวัตกรรมการผลิต และการตลาดให้สามารถดึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยมาเชื่อมโยงพัฒนาแบรนด์ให้เกิดมูลค่าที่สูงขึ้น และให้เป็นที่รู้จักสู่ตลาดโลก คาดสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท
นายสุรพล ปลื้มใจ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในเมืองไทย ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงสำคัญ (Flagship Policy) ที่มีเป้าหมายผลักดันโครงการและแผนงานด้านต่าง ๆ ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของไทยและหนึ่งในนั้น คือ สาขาอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศทั้งในด้านมูลค่าและการจ้างงาน โดยปี 2564 สามารถสร้างรายได้ราว 3.9 แสนล้านบาท การส่งออกสินค้าแฟชั่นมีมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท และเกิดการจ้างงานราว 8 แสนคน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย สาขาแฟชั่น ให้ก้าวสู่ Soft Power ในระดับสากล กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) โดยกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จึงได้ดำเนิน “กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรหัตถอุตสาหกรรมไทย” ภายใต้โครงการพัฒนา และเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) และสร้างวัฒนธรรมสร้างสรรค์ของชาติภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ตามนโยบาย 4 ให้ 1 ปฏิรูป ให้ทักษะใหม่ ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรที่ทันสมัย ตามกลไกด้านการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ด้วยการ “สร้างสรรค์และต่อยอด” ให้เกิดเสน่ห์ คุณค่า และเพิ่มมูลค่า “โน้มน้าว” ให้เกิดการยอมรับ เปิดใจ และต้องการ “เผยแพร่” ให้เป็นที่รู้จัก
โดยกิจกรรมดังกล่าว มีจุดมุ่งหมายในการเพิ่มศักยภาพของบุคลากรในสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ครอบคลุมสาขางานผ้าพื้นเมือง งานปัก เครื่องหนัง เซรามิก เครื่องจักสาน และอื่น ๆ มุ่งเน้นการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการออกแบบร่วมสมัย จำนวน 100 คน เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งสร้างเรื่องราวแบรนด์ (Storytelling) และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ไทยผ่านการฝึกอบรมเชิงลึกทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต การศึกษาดูงาน และการใช้กลยุทธ์การตลาด การสื่อสาร นำไปสู่การเพิ่มยอดขายสินค้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ต่อยอดงานหัตถอุตสาหกรรมร่วมเป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย สร้างให้โอกาสโตไกล และเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก THAI Craft to the WORLD อย่างยั่งยืน
ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ เสวนาหัวข้อ “ปั้นแบรนด์หัตถกรรมไทย ให้เฉิดฉายบนเวทีโลก” โดย คุณรัฐ เปลี่ยนสุข เจ้าของแบรนด์ SUMPHAT GALLERY (นักออกแบบไทยที่นำพางานหัตถกรรมไทยสู่แบรนด์ระดับโลก) คุณอิสระ ชูภักดี เจ้าของแบรนด์ KORKOK (จากผู้ผลิตงานจักสานเสื่อกก สู่ผู้ขับเคลื่อนจังหวัดจันทบุรี เป็นเมืองสร้างสรรค์ UNESCO) และ ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ (หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินกิจกรรมพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่น)
สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มแฟชั่น และอื่น ๆ ในสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ที่มีความสนใจโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6883 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เว็บไซต์ www.diprom.go.th และ www.facebook.com/dipromindustry
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น