สจล. จัดงานสถาปนา "ก้าวสู่ปีที่ 66" จุดประกายนวัตกรรมอนาคต ผ่าน ‘ลาดกระบังนิทรรศน์ 69’ เวทีโชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอนาคต สู่การขับเคลื่อนสังคมไทย - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568

สจล. จัดงานสถาปนา "ก้าวสู่ปีที่ 66" จุดประกายนวัตกรรมอนาคต ผ่าน ‘ลาดกระบังนิทรรศน์ 69’ เวทีโชว์นวัตกรรมและเทคโนโลยีอนาคต สู่การขับเคลื่อนสังคมไทย


สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนา “ก้าวสู่ปีที่ 66” ตอกย้ำความก้าวหน้าตลอด 65 ปีที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และมุ่งเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกสู่สังคมไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ในโอกาสนี้ยังได้ประกาศเตรียมจัดงาน “ลาดกระบังนิทรรศน์ 69” ในปี 2569 เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานนวัตกรรมแห่งอนาคตและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สัมผัสงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ซึ่งงานจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 24- 30 สิงหาคม 2569 ณ สจล.



การจัดงานสถาปนา “ก้าวสู่ปีที่ 66” ประกอบด้วย
พิธีสักการะพระนิรันตรายและพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พิธีทำบุญตักบาตร พิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช การจัดงานสถาปนาครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จของสถาบันตลอดกว่า 6 ทศวรรษที่ผ่านมาและเป็นการประกาศความมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปในฐานะผู้นำด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ


รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวถึงทิศทางนโยบายและวิสัยทัศน์ในปี 2569 ว่า
สถาบันมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการก้าวสู่การเป็น Smart University ในทุกมิติ โดยเน้นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อต่อการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามายกระดับการเรียนการสอน การวิจัย และการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมุ่งเน้นการสร้างมหาวิทยาลัยที่ปลอดภัย ด้วย เทคโนโลยี SMART GATE, SMART POLE, SMART PARK ควบคุมด้วยระบบห้องปฏิบัติการอัจฉริยะของสำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (Smart City innovative Research Academy = SCiRA) ดำเนินการภายใต้ สจล.


โดย สร้างระบบ DIGITAL TWIN
จำลองการใช้พลังงาน การเดินทาง และการรับบริการต่างๆ ในมหาวิทยาลัยเพื่อนำไปปรับปรุงการให้บริการได้อย่างดีที่สุด ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่ดำเนินการในรูปแบบนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นมหาวิทยาลัยดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม สจล. มุ่งลดการปล่อยคาร์บอนให้ได้ 50% ภายในปี ค.ศ.2028 พร้อมเดินหน้าสู่การบรรลุ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ.2050

รวมทั้ง การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG ขององค์การสหประชาชาติ และบรรลุวิสัยทัศน์ของสจล.ในการเป็น “The World Master of Innovation” ด้านการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้พลังงานสะอาด และการปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานและการใช้ทรัพยากรของบุคลากรและนักศึกษาให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด


นอกจากนี้ แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนจะถูกบูรณาการเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษาเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (Entrepreneurship) ที่มีคุณภาพและมีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม สามารถสร้างธุรกิจและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเศรษฐกิจและความยั่งยืนของโลก ขณะเดียวกันบุคลากรของสถาบันจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนและเป็นแบบอย่างในการลดการปล่อยคาร์บอน ต่อยอดสู่การสร้างมหาวิทยาลัยต้นแบบด้านนวัตกรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล.กล่าวถึงจุดประสงค์การจัดงาน “ลาดกระบังนิทรรศน์ 69” ด้วยว่า เพื่อเปิดพื้นที่แสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของคนไทย ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างสถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ และภาครัฐ กระตุ้นการลงทุนและการพัฒนาผลงานที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ตลอดจนปลูกฝังแนวคิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างยั่งยืนให้กับเยาวชนและสังคมไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่างานนี้จะเป็นอีกหนึ่งเวทีระดับประเทศที่นำเสนอผลงานนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่างครบวงจร ตั้งแต่งานวิจัยเชิงวิชาการ เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ ผลงานสร้างสรรค์จากนักศึกษา ไปจนถึงนวัตกรรมที่พร้อมต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์จริงทั้งในภาคอุตสาหกรรมและสังคม

งาน “ลาดกระบังนิทรรศน์ 69” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 - 30 สิงหาคม 2569 ณ สจล. จะเปิดโอกาสให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้ประกอบการ นักลงทุน และหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ ทดลองสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ ๆ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนบทบาทของ สจล. ในฐานะสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มุ่งผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมให้เยาวชนไทยได้แรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ในการสร้างอนาคตด้วยนวัตกรรมอย่างยั่งยืน


โดยจัดกิจกรรม“KMITL Future Innovation 2025” ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญ
เช่น การประกวดนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี ชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ 13/2568 การแข่งขัน Sustainnovation Pitch 2025 และการแข่งขันแนวคิดนวัตกรรมการเกษตรเพื่ออนาคต (Pitching) ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร” ซึ่งจัดร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)


กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และส่งเสริมการใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน ซึ่งงานในครั้งนี้มีนักเรียนและนักศึกษาทั่วประเทศเข้าร่วมกว่า 1,200 คน โดยแบ่งเป็น 4 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย KrungsriUniVerse X KMITL HACKATHON 2025 การประกวดปลุกพลังความคิด พิชิตบัญชีม้า มีผู้สมัคร 61 ทีม, การประกวดนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยีระดับประเทศครั้งที่ 13 มีผู้สมัคร 300 ทีม, การประกวดแข่งขันแนวคิดนวัตกรรมการเกษตรเพื่ออนาคต มีผู้สมัคร 370 ทีม, โครงการประกวดกิจกรรม Sustainnovation Pitch 2025 มีผู้สมัคร 13 ทีม ผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อีกด้วย
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ สจล. ได้ทาง Facebook Page KMITL ได้ที่ลิงค์นี้ https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ทางการของสถาบัน www.kmitl.ac.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here