หลักสูตรสตินวัตกรรมและสันติศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) โดยการนำของ พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตร ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน "วันสันติภาพสากล ประจำปี 2568" ภายใต้แนวคิด “สังคมตื่นรู้ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว” (Mindful Society for Green Economy Development)
โดยภายในงานมีกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่ การมอบรางวัล “ลมหายใจแห่งสันติภาพ” (Breath of Peace Award) แด่ พระพรหมบัณฑิต (ศ.ดร.) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้นำทางจิตวิญญาณผู้ผลักดันให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลโดยสหประชาชาติ และผู้ริเริ่มการประชุม UN Day of Vesak ผู้พัฒนาแนวคิด “สันติภาพภายในสู่สันติภาพภายนอก” ที่ทรงคุณค่าต่อสังคมโลก, ฯพณฯ ดาโช เชอริง โทบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ผู้นำประเทศที่ยึดมั่นในความยั่งยืน ขับเคลื่อนภูฏานสู่สถานะประเทศคาร์บอนเป็นกลาง ส่งเสริมปรัชญา Gross National Happiness (GNH) และสนับสนุนโครงการ Gelephu Mindfulness City (GMC) ให้เป็นเมืองต้นแบบด้านสันติภาพและนวัตกรรม และศิษย์เก่าดีเด่นอีกจำนวน 6 ท่าน
นอกจากนี้ ยังมีการปาฐกถาพิเศษโดย พระพรหมบัณฑิต ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานสสมาคมวันวิสาขบูชาโลก เรื่อง “สังคมตื่นรู้ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านทำมาก่อนสหประชาชาติหรือ UN ผ่านเศรษฐกิจพอเพียง คือ ก่อนที่สหประชาชาติประกาศ SDG 17 ข้อ เดิม UN ทำแค่ 3 เรื่อง คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์เพิ่มเรื่องวัฒนธรรมเข้ามาด้วย คือ เพิ่มเรื่องจิตใจ เรื่องประเพณี ฐานรากทางจิตวิญญาณเข้ามาด้วย ซึ่งตอนหลัง UN เพิ่มสิ่งนี้เข้ามา เพียงแต่สังคมไทยไม่ค่อยตระหนักรู้ เพราะเราหลงไหลไปกับกระแสทุนนิยม..”
รวมทั้งการเสวนาโดย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล และ พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านสติและสันติภาพ โดยมี คุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ จาก The Standard เป็นผู้ดำเนินรายการ รวมถึงเวที Peace Talk ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและภาคีเครือข่ายร่วมเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ด้านสันติภาพ
พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ในฐานะผู้อำนวยการหลักสูตรสตินวัตกรรมและสันติศึกษา กล่าวปิดงานว่า “การจัดงานวันสันติภาพสากลครั้งนี้ คือการประกาศพลังแห่งสติและนวัตกรรมเพื่อสันติภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในสังคมไทยและประชาคมโลก”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น