“BEAUTY BUFFET” พลิกโฉมใหม่! สู่ร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562

“BEAUTY BUFFET” พลิกโฉมใหม่! สู่ร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์



ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด(มหาชน) หรือ BEAUTY ผู้นำธุรกิจค้าปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a beautiful life เปิดเผยว่า “BEAUTY BUFFET” ได้จับมือพันธมิตรแบรนด์เครื่องสำอางและสุขภาพชั้นนำกว่า 14 แบรนด์ อาทิ แบรนด์ KARMART SNAIL WHITE BOKHTOH SMITH HER HIGHNESS และอื่นๆ ในปี 2562 ประเดิมนำสินค้าเข้าจำหน่าย ณ ร้าน BEAUTY BUFFET 120 สาขาทั่วประเทศ โดยสัดส่วนผลิตภัณฑ์ แบ่งออกเป็น สินค้าแบรนด์ BEAUTY BUFFET 80 % และสินค้าแบรนด์พันธมิตรชั้นนำ (มัลติแบรนด์) 20 % ชูกลยุทธ์จับมือพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำ รุกตลาด BEAUTY & HEALTH ประเดิมแฟลกชิป สโตร์แห่งแรก สาขา มาบุญครอง เดินหน้ากลยุทธ์การตลาด O2O ดันยอดขายโตต่อเนื่อง มองภาพรวมตลาดสุขภาพและความงามในประเทศขยายตัวได้อีกมาก


สำหรับการพลิกโฉมร้าน BEAUTY BUFFET สู่การเป็นร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ที่ครบวงจรทั้งด้านสุขภาพและความงาม ภายใต้แนวคิด The Kitchen Storage ซึ่งยังคงจุดยืนของ Beauty That All-You-Can-Choose เข้าถึงได้ง่ายหลากหลายรูปแบบในราคาที่สมเหตุสมผลและความตื่นเต้น การปรับรูปโฉม ภาพลักษณ์ ในครั้งนี้เพื่อสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเป็นหลัก ทั้งรูปลักษณ์ ดีไซน์ การใช้งาน และการให้บริการ โดยประเดิมเปิด Flagship Store แห่งแรกที่ สาขามาบุญครอง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา และ มีแผนจะปรับโฉมร้านใหม่อีก 3 สาขา เซ็นทรัล ลาดพร้าว เซ็นทรัล ชลบุรี และ โรบินสัน จ.ตรัง รวมทั้งสิ้น 4 สาขาในปีนี้


การปรับโฉมในครั้งนี้ จึงนับเป็นปรากฎการณ์ทางธุรกิจที่สำคัญของ BEAUTY BUFFET ในการรุกตลาดสินค้าสุขภาพและความงาม เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภค และนักช้อปปิ้งส่วนใหญ่ มีความต้องการ ช้อปปิ้งในรูปแบบร้านมัลติแบรนด์ ทั้งในด้านราคา และสินค้าที่หลากหลาย สามารถเลือกซื้อได้อย่างอิสระ ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะมีการตอบรับที่ดี ตอบโจทย์กลุ่มนักช้อปในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เพิ่มโอกาสในการขาย และสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น พร้อมรักษาส่วนแบ่งตลาดความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกเครื่องสำอาง


ดร.พีระพงษ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทจะมุ่งเน้นใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (Online to Offline synchronization) ควบคู่ไปกับการใช้ Experience Sharing ผ่านทางกลุ่มของ Macro Influencers ที่สามารถสร้าง Mass Awareness ได้ เพื่อให้บอกเล่าถึงประสบการณ์ความประทับของรูปแบบร้าน, ความหลากหลายของสินค้า, การให้บริการของพนักงาน และโปรโมชั่น ที่น่าสนใจของทั้งสินค้า BEAUTY BUFFET และ สินค้าของพันธมิตร และต่อยอดจาก WOM ของลูกค้าที่ได้มามีประสบการณ์จริงที่ Offline Store แชร์กลับไปบนโลกออนไลน์ ทั้งใน Platform ของผู้บริโภคและแบรนด์ จากกลยุทธ์การตลาดดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นยอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น


สำหรับภาพรวมตลาดสุขภาพและความงาม มีการแข่งขันสูงและรุนแรงขึ้น เนื่องจากเทรนด์รักสุขภาพและความงามยังคงเป็นเทรนด์ที่อยู่ในกระแสความนิยมของผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการธุรกิจด้านสุขภาพและความงามต้องเร่งปรับตัวสร้างจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อครองใจผู้บริโภค และชิงเค้กส่วนแบ่งทางการตลาดที่มีมูลค่ามหาศาลในปัจจุบัน ซึ่งตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยและตลาดอาหารเสริมสุขภาพ ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดเครื่องสำอางในไทยมีมูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ย 7.8 – 7.9 %และมูลค่าตลาดอาหารเสริม 8.7 หมื่นล้านบาท ”ดร.พีระพงษ์ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here