แพทย์ชี้ แม้คลายล็อกยังต้องสวมหน้ากากต่ออีก 2 เดือน พร้อมระบุหลังโลกออนไลน์แชร์สเปรย์พ่นปากฆ่าเชื้อโคโรนา เป็นเพียงผลในหลอดทดลองเท่านั้น ด้าน ‘เบตาดีน’ แจงเริ่มทดสอบกับไวรัสโควิด-19 แล้วหลังคนแห่แชร์ข้อมูล - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพุธที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563

แพทย์ชี้ แม้คลายล็อกยังต้องสวมหน้ากากต่ออีก 2 เดือน พร้อมระบุหลังโลกออนไลน์แชร์สเปรย์พ่นปากฆ่าเชื้อโคโรนา เป็นเพียงผลในหลอดทดลองเท่านั้น ด้าน ‘เบตาดีน’ แจงเริ่มทดสอบกับไวรัสโควิด-19 แล้วหลังคนแห่แชร์ข้อมูล


ก่อนหน้านี้มีการแชร์ข้อมูลอ้างว่า “เบตาดีน” ใช้รักษาไวรัสโคโรนาได้ ทำให้ต่อมาทางอย.ชี้แจ้งข้อมูลว่า เบตาดีน สเปรย์ฆ่าเชื้อนั้น มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อจุลลินทรีย์ ลดการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอเท่านั้น ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และทางเพจ “Betadine” ก็ออกมาชี้แจงว่าผลิตภัณฑ์ BETADINE THROAT SPRAY และ BETADINE GARGLE มีข้อบ่งใช้เพื่อลดการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอ แม้จะมีการศึกษาในหลอดทดลองที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพในการกำจัดไวรัสกลุ่มโคโรนาที่ก่อโรคเมอร์ส, ซาร์ส และอีโบลาได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันการกำจัดไวรัสโคโรนาที่ก่อโรคโควิด-19 ได้ ณ เวลานี้ 
ล่าสุดเพจ “Betadine” โพสต์ข้อความระบุ “บริษัท มุนดิฟาร์มา ได้เริ่มทำการศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนต่อไวรัสโคโรนา SARS-COV-2 ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 (COVID-19) ทั้งในหลอดทดลองและทางคลินิก โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา” และระบุด้วยว่าการทดลองดังกล่าวเป็นการทดสอบตัวยา PVP-I หรือ Povidone-Iodine ซึ่งมีในผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนว่าจะสามารถยับยั้งต่อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโควิด-19 ได้หรือไม่


ขณะที่ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ให้สัมภาษณ์ระบุ การใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อบริเวณช่องปากและลำคอ มีการศึกษาที่แสดงว่ามีสาร Antiseptic บางอย่าง เช่น พวก Iodine Compound สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ ซึ่งในหลอดทดลองนั้น ก็สามารถฆ่าเชื้อได้ค่อนข้างจะดีและเร็ว ในเวลา 30 วินาทีหรือใน 1 นาที แต่ขณะนี้เราต้องการการศึกษาในทางการระบาดวิทยาหรือในคนไข้จริงๆ ว่าในการพ่น Antiseptic ตลอดเวลา เป็นเวลา 3 ครั้งต่อเนื่องกันนั้น จะสามารถป้องกัน หรือช่วยรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อได้หรือไม่ ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีผลการศึกษาออกมา 


ขณะเดียวกันมีคำแนะนำสำหรับบุคคลทั่วไปในการสวมใส่หน้ากากอนามัย ควรหมั่นดูแลช่องปากให้สะอาด หลีกเลี่ยงรับประทานอาหารที่มีโอกาสทำให้ไอ จาม เช่น ของมัน ของทอด ฯลฯ เมื่อมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยในภาวะที่ไม่มีอาการไอ จาม ก็จะเป็นการลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อโรคได้อีกทางหนึ่ง พร้อมย้ำถึงแม้ว่าตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 จะต่ำสิบ ยังคงแนะนำให้สถานประกอบการหรือบุคคลทั่วไปต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อไปอีกระยะ 2 เดือน เป็นอย่างน้อย เพื่อความมั่นใจว่าการแพร่ระบาดของโรคอยู่ในช่วงขาลง เพราะสถานการณ์การระบาดแต่ละประเทศจบลงไม่พร้อมกัน 


ด้านเภสัชกรหญิงจิตติมา เสมอภาค ผู้อำนวยการหน่วยธุรกิจ บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ยืนยันว่า ขณะนี้ทางบริษัท มุนดิฟาร์มา ได้ร่วมมือกับห้องปฏิบัติการ BLS3 ซึ่งใช้กับการวิจัยและทดลองเกี่ยวกับเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคพร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มการศึกษาประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนต่อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 (COVID-19) ทั้งในระดับหลอดทดลองและทางคลินิคแล้ว โดยคาดว่าจะรู้ผลเร็วๆนี้ 


ทั้งนี้การยืนยันประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อเบตาดีนต่อการกำจัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (novel coronavirus) ซึ่งก่อให้เกิดโรคโควิด-19 จะสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อ การศึกษาวิจัยดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์แล้วเท่านั้น 


ส่วนผลทดสอบในการกำจัดไวรัส MERs และ SARs นั่น ถูกทดสอบกับตัวยาที่มีชื่อว่า PVP-I หรือ Povidone-Iodine ซึ่งเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เบตาดีน เช่น เบตาดีน โทรตสเปรย์ และ เบตาดีน การ์เกิล ทำให้ปัจจุบันความต้องการผลิตภัณฑ์ในกลุ่มยาฆ่าเชื้อเบตาดีน ที่มีตัวยาโพวิโดนไอโอดีน (PVP-I) เพิ่มขึ้นมากทั่วโลก รวมทั้งในประเทศไทย โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการความร่วมมือในการวิจัยนี้ บริษัทมุนดิฟาร์มา จะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนในชัยชนะต่อภาวะวิกฤตสาธารณสุขของไทยและโลกครั้งนี้ไปด้วยกัน-.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here