สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมเสวนาการดำเนินงานโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สอศ. กับ กฟผ.ในวันที่ 17 กันยายน 2563 ณ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี
นายสุเทพ แก่งสันเทียะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้ทำความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในการดำเนินโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยการจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ การทำการเกษตรตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรในสถานศึกษา ชุมชน หน่วยงานโดยรอบสถานศึกษา และตามแนวสายส่งของ กฟผ. มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 จนถึงปัจจุบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยวิถีการดำเนินชีวิตแบบพออยู่พอกิน พึ่งพาตนเองได้ด้วยการทำการเกษตรแบบธรรมชาติ ลด ละ เลิก การใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง
ได้ส่งมอบนโยบายให้วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีและวิทยาลัยประมง ทั่วประเทศดำเนินการ ต่อมาได้ขยายผลไปยังวิทยาลัยการอาชีพและวิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ ปัจจุบันมีวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จำนวน 92 แห่ง เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง 4 เรื่อง ได้แก่ การเพาะปลูก การปศุสัตว์ การเลี้ยงสัตว์น้ำ และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพแทนการใช้สารเคมี ทำให้สามารถลดต้นทุนจากการใช้สารเคมี สามารถดำรงชีวิตร่วมกับธรรมชาติ เพื่อที่จะได้รับผลผลิตที่ปลอดภัยจากสารพิษ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและเกิดความยั่งยืนกับสังคม
โดยมีศูนย์ประสานงานภาค 4 แห่ง สามารถดำเนินการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในแต่ละภูมิภาค คือ
1. ศูนย์ภาคเหนือ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพะเยา
2. ศูนย์ภาคกลาง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี
3. ศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม
4. ศูนย์ภาคใต้ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสงขลา
1. ศูนย์ภาคเหนือ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพะเยา
2. ศูนย์ภาคกลาง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี
3. ศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม
4. ศูนย์ภาคใต้ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสงขลา
รวมทั้งจัดให้มีประเมินผลการดำเนินงานดีเด่น ทั้งในระดับภาค และระดับชาติ เป็นประจำทุกปี โดยกำหนดกิจกรรมที่ใช้ในการประเมิน 8 ประเภทได้แก่
-ประเภทที่ 1 การดำเนินงานภายในวิทยาลัยดีเด่น
-ประเภทที่ 2 ครู บุคลากรทางการศึกษา นำไปใช้และขยายผลดีเด่น
-ประเภทที่ 3 นักเรียน นักศึกษาปัจจุบันนำไปใช้และขยายผลดีเด่น
-ประเภทที่ 4 ราษฎรที่ได้รับความรู้จากวิทยาลัย และใช้ได้ผลดีเด่น
-ประเภทที่ 5 ชุมชนที่ได้รับความรู้จากวิทยาลัย และใช้ได้ผลดีเด่น
-ประเภทที่ 6 โรงเรียนที่ได้รับความรู้จากวิทยาลัย และใช้ได้ผลดีเด่น
-ประเภทที่ 7 การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ในโครงการชีววิถีฯ ดีเด่น
-ประเภทที่ 8 งานวิจัยและนวัตกรรมในโครงการชีววิถีฯ ดีเด่น
ซึ่งมีผู้บริหาร และผู้รับผิดชอบโครงการ ของสถานศึกษา ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 300 คน เข้าร่วมประชุมและรับมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงาน
รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่าต่อไป ในการดำเนินโครงการในปี 2564 ซึ่งนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาในวิทยาลัยเกษตรและวิทยาลัยประมง สังกัด สอศ. เพื่อการมีงานทำ พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นผู้นำด้านการเกษตรและประมง เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรให้กับเยาวชน เกษตรกรและชุมชน ยกระดับและพัฒนาการเรียนการสอนไปสู่ Digital Farming โดยการนําวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเกษตรให้มากขึ้น การบริหารจัดการน้ำ ดิน ปุ๋ยและป่าไม้ การใช้เทคโนโลยีเพื่อศึกษาพฤติกรรมของสัตว์ การสร้างการเรียนรู้แบบใหม่เพื่อนําข้อมูลมาวิเคราะห์ วางแผน ในการทํางานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตรและประมง สร้างนวัตกรรมตามความต้องการของพื้นที่ชุมชน ภูมิภาคหรือประเทศ รวมทั้งการเป็นผู้ประกอบการ จึงจําเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย สถานประกอบการและภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ดังนั้น การทำงานในทุกมิติก็สามารถบูรณาการการทำงานร่วมกันได้โดยมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน
รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวปิดท้ายว่า โครงการชีววิถีฯ ที่ กฟผ. ร่วมมือกับ สอศ. มาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 17 ปี จึงไม่ใช่เป็นเพียงโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน เท่านั้น แต่เป็นความร่วมมือร่วมใจที่ลงลึกถึง ครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษา กับ ผู้ประสานงานโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ของ กฟผ. ระยะเวลาที่ผ่านมาถือได้ว่า ทั้งสองหน่วยงานได้ร่วมมือกันในการจัดการอาชีวศึกษา ที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และจะร่วมมือกันดำเนินโครงการชีววิถีฯให้บรรลุเป้าหมาย เพื่อประโยชน์สูงสุด ของทั้ง 2 หน่วยงาน ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น