สฟอ. ผนึกกำลัง กฟผ. และพันธมิตร ผลักดันการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในไทย ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563

สฟอ. ผนึกกำลัง กฟผ. และพันธมิตร ผลักดันการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในไทย ตอบโจทย์เศรษฐกิจหมุนเวียน


สฟอ. ร่วมกับ กฟผ. ผนึกกำลังภาครัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา เปิดตัวโครงการ “ศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” เพื่อผลักดันให้เกิดระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน มุ่งให้เกิดการนำกลับมาใช้ใหม่ อย่างเป็นรูปธรรม ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามร่าง พ.ร.บ.ฯ ของกรมควบคุมมลพิษ


นายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) เปิดเผยว่า โครงการศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มุ่งหมายที่จะส่งเสริมให้เกิดระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ อย่างเป็นระบบและยั่งยืน และสอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ. การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ซึ่งกำหนดประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญไว้ 5 ประเภท ได้แก่ 
  1) คอมพิวเตอร์ 
  2) เครื่องโทรศัพท์และโทรศัพท์ไร้สาย 
  3) เครื่องปรับอากาศ 
  4) เครื่องรับโทรทัศน์ 
  5) ตู้เย็น 


เนื่องจากปัจจุบันการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ ประเทศไทยเกิดซากผลิตภัณฑ์ฯ เป็นจำนวนมากกว่า 400,000 ตันต่อปี ซากผลิตภัณฑ์ฯ เหล่านี้มีส่วนประกอบทั้งส่วนที่มีมูลค่าและส่วนที่มีความเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยก็ยังไม่มีระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ ที่เหมาะสมและครอบคลุมทั้งการจัดเก็บ การรวบรวม การคัดแยก การถอดแยกชิ้นส่วน และการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ฯ อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นระบบทำให้ประชาชนทิ้งซากผลิตภัณฑ์ฯ ปนอยู่กับสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอย หรือมีการจัดการที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อม และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของผู้ถอดแยกและสะสมในสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันให้เกิดระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ ที่สอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ.ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้รวบรวม ผู้ขนส่งและโรงงานถอดแยกชิ้นส่วน จึงต้องทำการศึกษาวิจัยและดำเนินโครงการศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 


โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 – พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ โครงการฯ จะเริ่มดำเนินกิจกรรมรับคืนซาก ประมาณการไว้ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 และดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ผ่านระบบฐานข้อมูล Digital WEEE Manifest ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาเพื่อเป็นเครื่องมือติดตามซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและจะดำเนินการนำร่องในพื้นที่ตัวอย่าง 2 พื้นที่ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดบุรีรัมย์


นายยงยุทธ ศรีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม กฟผ. กล่าวถึงการมีส่วนร่วมของ กฟผ. ในฐานะผู้สนับสนุนหลักโครงการศึกษาวิจัยฯ ครั้งนี้ว่า นอกจากการผลิตและจัดหาพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนคนไทยแล้ว กฟผ. ยังมีอีกหนึ่งบทบาทในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพผ่านมาตรการติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพกับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือ “โครงการฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5” รวมถึงมีความตระหนักต่อการพัฒนาที่สมดุลตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals; SDGs) ตลอดจนสร้างความตระหนักให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เกิดการปรับปรุง พัฒนากระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และลดการใช้สารอันตรายในเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ทำให้เกิดการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) อย่างเป็นรูปธรรม ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานของประเทศไทย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here