TK ผลประกอบการ 2563 กำไร 367.6 ล้านบาท และมีเงินสดในมือ 2,213 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายธุรกิจเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

TK ผลประกอบการ 2563 กำไร 367.6 ล้านบาท และมีเงินสดในมือ 2,213 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายธุรกิจเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย


บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย รายงานผลประกอบการประจำปี 2563 มีกำไรสุทธิ 367.6 ล้านบาท ลดลง 23.6% จาก 481.1 ล้านบาทในปี 2562 ประกาศจ่ายปันผล 0.42 บาท/หุ้น และมีสถานะเงินสดหลังจากชำระคืนหุ้นกู้ในปี 2563 จำนวน 1,800 ล้านบาท แล้วยังมีเงินสดอยู่ที่ระดับ 2,213 ล้านบาท เผยธุรกิจแปรผันตามตลาดรถจักรยานยนต์และตลาดรถยนต์ รวมทั้งขึ้นอยู่กับภาพรวมของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กลุ่มผู้ผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์รายใหญ่คาดการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 1.5% ที่ 1.5 ล้านคันและตลาดรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 7.3 – 13.6% ที่ 850,000 – 900,000 คัน คาดเห็นผลกระทบบวกจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเยียวยาจากภาครัฐ TK กางกลยุทธ์ปี 2564 พร้อมเร่งขยายธุรกิจหลังโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง และเดินหน้าบริหารต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินธุรกิจ มุ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาใช้เพื่อบริการสอดรับในยุคนิวนอร์มอล ในขณะที่ยังคงใช้มาตรการเข้มงวดในการให้บริการสินเชื่อ รวมทั้งเตรียมเงินทุนพร้อมเดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศในทุกรูปแบบทันทีเมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย


นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า ปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีที่เศรษฐกิจไทยหดตัว 6.1% จากปี 2562 ด้วยวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายในประเทศที่ปรับตัวลงอย่างมาก รวมทั้งยอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และรถยนต์ซึ่งหดตัวต่อเนื่องจากปี 2562 โดยรถจักรยานยนต์มียอดจำหน่าย 1,517,682 คัน ลดลง 11.7% ส่วนรถยนต์มียอดจำหน่าย 792,110 คัน ลดลง 21.4% โดยธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์จะแปรผันตามตลาดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อและควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาใช้ในการให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงที่มีการล็อคดาวน์และในช่วงที่ใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโควิด-19 ช่วยให้ผลการดำเนินงานในปี 2563 ยังคงมีกำไรสุทธิ 367.6 ล้านบาท ทั้งนี้ กำไรสุทธิลดลง 23.6% จาก 481.1 ล้านบาทในปี 2562

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 210 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 57.1 ของกำไรสุทธิ โดยจะปิดสมุดพักการโอนหุ้นเพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 9 มีนาคม 2564 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 13 พฤษภาคม 2564 นี้ ด้านสถานะทางการเงิน TK มีเงินสดหลังจากชำระคืนหุ้นกู้ในปี 2563 จำนวน 1,800 ล้านบาท แล้วยังมีเงินสดอยู่ที่ระดับ 2,213 ล้านบาท

“ในปี 2564 กลุ่มผู้ผลิตรถจักรยานยนต์และรถยนต์รายใหญ่คาดการณ์ตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 1.5% ที่ 1.5 ล้านคันและตลาดรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 7.3 – 13.6% ที่ 850,000 – 900,000 คัน ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเยียวยาในรูปแบบต่าง ๆ จากทางภาครัฐ จะช่วยฟื้นกำลังซื้อเป็นลำดับในปีนี้ ทั้งนี้ TK กำหนดกลยุทธ์การบริหารธุรกิจในปี 2564 ด้วยการเตรียมเงินทุนให้พร้อมตลอดเวลา เพื่อสามารถเดินหน้าขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศในทุกรูปแบบทันทีเมื่อมีจังหวะและโอกาส ด้านการบริหารการปฏิบัติการ (Operation Management) TK ยังคงบริหารต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นมาใช้ในกระบวนการทำงานและการบริการลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์ม TK Plus ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อบริการลูกค้า สอดรับในยุคนิวนอร์มอล ในขณะที่ยังคงมาตรการเข้มงวดในการให้บริการสินเชื่อและควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง” นางสาวปฐมากล่าว


ด้าน นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ TK กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านจำนวนลูกหนี้เช่าซื้อและลูกหนี้เงินให้กู้ ณ สิ้นปี 2563 มีจำนวนสุทธิ 4,591.3 ล้านบาท ลดลง 38.3% จาก 7,438.6 ล้านบาท บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 7,356.8 ล้านบาท ลดลง 19.7% จาก 9,163.3 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 2,000.5 ล้านบาท ลดลง 48.4% จาก 3,878.5 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีที่ก่อน

ายประพลกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านตลาดในต่างประเทศ ในปี 2563 TK มีลูกหนี้เช่าซื้อต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วน 24.86% ของลูกหนี้เช่าซื้อ ซึ่งทางบริษัทมีเป้าหมายเดิมที่จะขยายสัดส่วนลูกหนี้ในต่างประเทศให้เป็น 50% ของลูกหนี้เช่าซื้อทั้งหมด ภายในสิ้นปี 2563 แต่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งหากเหตุการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี บริษัทคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้ในตลาดต่างประเทศและลูกหนี้ในประเทศเป็น 50:50 ได้ในปี 2565

อนึ่ง TK ดำเนินธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ในราชอาณาจักรกัมพูชา ภายใต้ชื่อ “Suosdey Finance PLC” และในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายใต้ชื่อ “Sabaidee Leasing Co.,Ltd” รวมทั้งดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในเมียนมา ภายใต้ชื่อ “Mingalaba Thitikorn Microfinance Co., Ltd.” ณ สิ้นปี 2563 TK มีสาขาในต่างประเทศรวม 16 สาขา คือ ราชอาณาจักรกัมพูชา จำนวน 12 สาขา สปป. ลาว จำนวน 3 สาขา และเมียนมา จำนวน 1 สาขา ทั้งนี้ หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และสถานการณ์การเมืองในเมียนมาคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น คาดจะสามารถเพิ่มจำนวนสาขาอีก 6 สาขา รวมทั้งสิ้นเป็น 22สาขา ภายในสิ้นปี 2564

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here