วธ. เปิดเวทีการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “ไทยใส่สบาย” เสริมศักยภาพนักออกแบบรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนอัตลักษณ์เครื่องแต่งกายไทย - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565

วธ. เปิดเวทีการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “ไทยใส่สบาย” เสริมศักยภาพนักออกแบบรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนอัตลักษณ์เครื่องแต่งกายไทย


กระทรวงวัฒนธรรม โดย สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย แถลงข่าวโครงการประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายร่วมสมัย (Contemporary Fashion Competition 2022) ภายใต้แนวคิด “ไทยใส่สบาย” ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน โดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบหมายให้ นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เป็นประธานในงานแถลงข่าว ฯ พร้อมด้วยนักออกแบบแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดัง ศิลปินนักแสดง ร่วมเชิญชวนนักออกแบบคนรุ่นใหม่สร้างสรรค์ไอเดีย การออกแบบเครื่องแต่งกายด้วยผ้าไทย ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า ๑๖๐,๐๐๐ บาท พร้อมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ ๖ สถาบันการศึกษาชื่อดัง เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านศิลปะร่วมสมัย สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกาย


นายโกวิท ผกามาศ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กล่าวว่า
“เพื่อตอบโจทย์ภายใต้แนวนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขับเคลื่อน “Soft Power” ความเป็นไทย เพื่อสร้างรายได้และภาพลักษณ์ ที่ดีให้แก่ประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่มีศักยภาพ 5F ซึ่งผ้าไทยและการออกแบบแฟชั่น (Fashion) ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ที่สำคัญ เพราะบ่งบอกได้ถึงอัตลักษณ์ ความเป็นไทย พร้อมถ่ายทอดศิลปะภูมิปัญญาของแต่ละชุมชน ซึ่งสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ได้ตระหนักถึงความสำคัญและมีโครงการเกี่ยวกับผ้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงได้สนับสนุนให้บุคลากรด้านการออกแบบแฟชั่นได้ มีโอกาส มีเวทีเพื่อแสดงความรู้ ความสามารถในการออกแบบเครื่องแต่งกาย โดยนำผ้าไทย อันเป็นทุนทางวัฒนธรรม มาใช้เป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์ผลงาน”


“สำหรับปีนี้ จึงได้จัดการประกวดการออกแบบเครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย ภายใต้แนวคิด “ไทยใส่สบาย” โดยกำหนดโจทย์คือ ต้องนำผ้าไทย ซึ่งก็คือ ผ้าที่ประดิษฐ์ขึ้นด้วยฝึมือคนไทย มาเป็นวัตถุดิบ ในการออกแบบ เพื่อให้คนไทย ได้เห็นว่า ผ้าไทยสามารถนำมาออกแบบได้อย่างสวยงาม ใส่ได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น วัยทำงาน และบุคคลทั่วไปก็สวมใส่ได้อย่างสบาย นอกเหนือไปจากการเป็นเวทีการประกวดที่ให้ นักออกแบบรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถและพัฒนาฝีมือแล้วนั้น ยังถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเรื่องผ้าได้มีช่องทางในการนำเสนอ ความหลากหลายของเส้นใย กรรมวิธีการผลิต สีสัน และลวดลาย เกิดองค์ความรู้ เรื่องของผ้าและการออกแบบเครื่องแต่งกาย ผ่านการนำเสนอผลงานของนักออกแบบรุ่นใหม่ที่เข้าร่วมกิจกรรม และความเห็นจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ให้เกียรติมาเป็นผู้คัดเลือกและตัดสินผลงานการประกวดในครั้งนี้อีกด้วย”


“กิจกรรมดังกล่าว ได้รับเกียรติจากแฟชั่นดีไซเนอร์ชื่อดังระดับประเทศเป็นที่ปรึกษาและคณะกรรมการตัดสิน อาทิ คุณศิริชัย ทหรานนท์ , คุณธีระ ฉันทสวัสดิ์ , คุณเอก ทองประเสริฐ และคุณบัญชา ชูดวง ก่อนที่ผลงานทั้งหมดจะนำไปเผยแพร่สู่สาธารณชน ต่อไปทั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาทั้ง ๖ แห่งได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต และ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ที่จะจับมือกันส่งเสริมและเผยแพร่งานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สาขาการออกแบบเครื่องแต่งกาย ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ เพื่อเพิ่มพูนภูมิปัญญาและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมภายใต้กิจกรรมนี้”


นายธีระ ฉันทสวัสดิ์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ T-ra กล่าวถึงเสน่ห์ของผ้าไทยว่า
“เสน่ห์ของผ้าไทยคือการทอด้วยมือและภูมิปัญญาที่เกิดจากการเข้าใจวิถีชีวิต สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมของตัวเองแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นงานทอผ้าในรูปแบบที่แตกต่างกันไปแต่ละท้องถิ่น ควรส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปในทุกๆ ด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องการทอผ้า และควรต่อยอดสนับสนุนให้เกิดการส่งเสริมอย่างจริงจัง ซึ่งจะทำให้เกิดความยั่งยืนของศิลปวัฒนธรรมที่ร่วมสมัยไม่ให้หายสาบสูญไปตามกาลเวลา”


ทั้งนี้ คณะกรรมการตัดสินผลงานรอบแรก จะทำการพิจารณาคัดเลือกผลงานที่โดดเด่นจำนวน ๑๒ คน จากหลักเกณฑ์ ดังนี้ 
   ๑.แนวคิดในการออกแบบ 
   ๒.ความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์ในการนำลายผ้ามาออกแบบ
   ๓.เทคนิคที่ใช้ในการออกแบบ 
  ๔.การเลือกใช้วัสดุและโทนสี 
ก่อนจะจัดสรรงบประมาณให้นำไปผลิตเป็นชุดต้นแบบเพื่อเข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศต่อไป 


สำหรับผลงานที่ชนะจะได้รับรางวัลเงินสดพร้อมโล่เกียรติยศ มูลค่ารวมทั้งสิ้น ๑๖๐,๐๐๐ บาท ผู้ที่สนใจสามารถส่งแฟ้มผลงานได้ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน – ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร ๐๒ ๒๐๙ ๓๗๕๓ หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ www.ocac.go.th


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here