"สารวัตรแรมโบ้" เดินหน้าต่อเนื่อง "คดีตู้ ห่าว" ยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ - Siamtimes.net

Breaking

Post Top Ad

Responsive Ads Here

Post Top Ad

Responsive Ads Here

นิทรรศการ งานมหกรรม

การสื่อสาร

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2565

"สารวัตรแรมโบ้" เดินหน้าต่อเนื่อง "คดีตู้ ห่าว" ยื่นหนังสือถึง รมว.ยุติธรรม ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษ


กรณีที่นายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ กับพวกคนจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลจับกุมที่ผับจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา ถูกแจ้งข้อหา 1. สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2. ร่วมกันค้ายาเสพติด 3. ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อยอดขยายผลบุกเข้าค้นบ้านหรู พร้อมยึดทรัพย์ ที่ดินจำนวนมาก พร้อมเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ปรากฎว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ปล่อยรถของกลางคนจีนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี รวมทั้งพบเจ้าหน้าตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจำนวนหนึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องให้ความสะดวกรู้เห็นกับกลุ่มคนจีนที่ทำผิดกฎหมาย จากการให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


จากเหตุผลสำคัญและความจำเป็นดังกล่าวข้างต้น พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้)
มูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม รับคดีนายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ คนจีนที่แปลงสัญชาติไทยกับพวกที่เกี่ยวข้องทุกคนอยู่ในอำนาจการสอบสวนการดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับหนังสือ เมื่อวันที่16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา


พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) มูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย กล่าวว่า
ตนเองขอชื่นชมและต้องปรบมือให้กับการทำงานของกระทรวงยุติธรรมที่กล้าทำการยึดทรัพย์แก๊งค์ตนจีนสีเทากว่าหมื่นล้านบาท และตนก็ได้ปรึกษากับคณะที่ปรึกษาประกอบด้วยข้าราชการทหารตำรวจ ผู้พิพากษา อัยการ นักกฎหมาย และทนายความจนตกผลึก เห็นควรว่า "ควรอย่างยิ่งที่ให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กระทรวงยุติธรรม ให้รับคดีนายหาว เจ๋อ ตู้ หรือชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ คนจีนที่แปลงสัญชาติไทยกับพวกที่เกี่ยวข้องทุกคนอยู่ในอำนาจการสอบสวนการดำเนินคดีเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลทางการเงิน มีสมัครพรรคพวก มีกลุ่มข้าราชการบางส่วนและเจ้าหน้าที่ตำรวจบางหน่วยงานให้การสนับสนุนช่วยเหลือ อีกทั้งเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศในขณะนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนทั้งประเทศและนักลงทุนต่างประเทศทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยใหผู้กระทำผิดทุกคนได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมายบ้านเมืองตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ในสายบังคับบัญชาของกระทรวงยุติธรรมที่มีหน่วยงานสำคัญประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ทำให้การสืบสวนและสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือ หาว เจ๋อ ตู้ กับพวกคนจีนที่เกี่ยวข้อง เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เกิดความรวดเร็วสามารถตอบความเคลือบแคลงสงสัยต่อสังคมได้ หากยังอยู่ในอำนาจการสืบสวนสอบสวนการรวบรวมพยานหลักฐานฝ่ายตำรวจแต่ฝ่ายเดียว


***พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช (สารวัตรแรมโบ้) ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ฉายา "ตำรวจมือปราบพระกาฬ" อดีตสารวัตรกองปราบ นครบาล และผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ซึงทำคดีดังๆ ระดับชาติและนานาชาติมาแล้วมากมาย
เช่น .คดีจ้างวานฆ่าคนสนิทหลวงพ่อคูณ คดีฆ่าถ่วงน้ำตระกูลตั้งฮั้วคดีฆ่าเผา 5 ศพตระกูลหลิมบุญเจียมปี 2537 .จับนายจาง ยาไฉ ชาวจีน มือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติ 100 ศพ นำคนร้ายส่งเมืองจีนด้วยตนเอง จับมือปืนรับจ้างนักฆ่าข้ามชาติชาวเยอรมัน 2 คน จับคนร้ายจำนวน 3 คนในคดีเรียกค่าไถ่นักศึกษาสาว จับกุมคนร้ายปล้นทรัพย์ เรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวจีนจำนวน 100 ล้านบาท เมื่อปี 2536 และยังมีคดีที่ปล้นชิงทรัพย์นักธุรกิจชาวจีนอีกหลายคดีที่พันตำรวจเอกสุรโชค เจษฎาเดช ได้ช่วยเหลือนักธุกิจชาวจีนที่ถูกปล้นทรัพย์ชิงทรัพย์หลายคดี รวมทั้งคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญระดับนานาชาติอีกจำนวนมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Top Ad

Responsive Ads Here